สวัสดีขอรับ...สำหรับหัวข้อที่จะนำเสนอวันนี้ ....
เห็นจะเป็นเมลล์ที่ได้รับจากเพื่อนอีกต่อหนึ่งที่ส่งมาให้ น่าสนใจดี เลยนำมาโพสต์ให้คนอื่นๆที่เข้ามาได้อ่านกันผ่านหน้ากระดาษอิเลคทรอนิกส์ในตอนที่ชื่อว่า.....ตอ โต๊ะ กะ เก้าอี้
โต๊ะกับเก้าอี้นั้นเป็นของคู่กัน ที่ไม่จำเป็นต้องใช้คู่กันในทุกครั้ง บางทีเราอาจแค่ต้องการนั่งบนเก้าอี้ และบางทีเราก็อาจแค่ต้องการโต๊ะไว้วางของเพียงอย่างเดียว แต่...ถ้ามันอยู่ด้วยกันก็จะดูสมบูรณ์แบบได้มากกว่าและประโยชน์ใช้สอยมันก็จะมากกว่าด้วย เหมือนกับผู้หญิงและผู้ชายทีเป็นของคู่กัน อย่างไรอย่างนั้น
มีเพื่อนคนหนึ่งถามฉันว่า...แล้วตกลงระหว่างผู้หญิงกะผู้ชาย "ใครกันที่เป็นโต๊ะ? ใครกันที่เป็นเก้าอี้?" ฉันจึงตอบไปว่า...โต๊ะน่าจะเป็นผู้ชาย ส่วนเก้าอี้ น่าจะเป็นผู้หญิง...เพราะโต๊ะสามารถมีเก้าอี้ได้มากกว่าหนึ่งตัว แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เก้าอี้ ริจะมีโต๊ะมากกว่าหนึ่งก็จะดูไม่งามและสังคมจะรุมประนามทันที (ฮา ฮา) แล้วเพื่อนคนเดิมมันก็ถามอีกว่า..."ก็แล้วจะมีโต๊ะสักกี่ตัวในโลกนี้ล่ะ ที่มันอยากจะมีเก้าอี้แค่เพียงตัวเดียว" ฉันก็เลยตอบมันไปว่า "ก็โต๊ะเขียนหนังสือไงแก แกเคยเห็นใครวางเก้าอี้ที่โต๊ะเขียนหนังสือมากกว่าหนึ่งตัวกันบ้าง" ไม่เหมือนโต๊ะกินข้าวหรือโต๊ะรับแขก พวกนี้เจ้าชู้ มีเก้าอี้ตั้งเยอะ บางก็ 4 ตัว บ้างก็ 5 ตัวหรืออาจจะมากกว่านั้น แต่โต๊ะเครื่องแป้ง เค้ารักเดียวใจเดียวเหมือนกันนะ..มีเก้าอี้ตัวเดียวเหมือนกัน มันเสริมให้" เออ..จริงด้วย อาจเป็นเรื่องของขนาดก็ได้มั้งแก...ก็โต๊ะกินข้าวน่ะ มันมีขนาดใหญ่มันก็เลยต้องการเก้าอี้มากๆ เพื่อมาเสริมบารมีเหมือนคนรวยๆที่ชอบมีอีหนูเยอะๆ ไว้ประดับบารมี ส่วนโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้งน่ะ ขนาดมันไม่ใหญ่เหมือนคนฐานะปานกลางไปจนถึงยากจนจะมีเมียมากกว่าหนึ่งก็เสี่ยงไม่ไหว" มันอธิบายเสียยืดยาว แล้วฉันก็อาอีก ในความช่างคิดทั้งของมันและฉัน มานั่งนึกๆแล้วก็อดขำมันไม่ได้ในความเหมือนโดยบังเอิญระหว่างโต๊ะกับเก้าอี้และความสัมพันธืระหว่างหญิงกับชาย เรามาพูดถึงเรื่องเก้าอี้กันบ้างดีกว่า เพื่อนมันถามฉันต่อว่า "แล้วแกว่าเก้าอี้แบบไหนในโลกที่มันจะชอบมีโต๊ะมากกว่าหนึ่ง"...มันเล่นเอาฉันคิดอยู่นานเหมือนกันนะ ก้อ...เก้าอี้ล้อเลื่อนไง พวกนี้ชอบเลื่อนไปโต๊ะโน้น โต๊ะนี่ย้ายไปย้ายมาอยู่เรื่อย"
คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นมันบ้างที่ขำ "เค้าเรียกว่ามีรักสำรอง เผื่อเลือกใช่ไหมแบบนี้" มันว่าคงยุ่งน่าดูเชียว ถ้าเจ้าเก้าอี้ล้อเลื่อนมาเจอกับโต๊ะกินข้าว เราก็เลยไม่เคยเห็นใครเอาเก้าอี้ล้อเลื่อนมาตั้งกับโต๊ะกินข้าวเลยสักที มันก็คงจะเหมือนกับการที่แม่เหล็กขั้วเดียวกันมันผลักกันนั่นแหละ เราเลยไม่ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นักที่ผู้หญิงไวไฟจะมาจับคู่กับผู้ชายเจ้าชู้ โดยมากถ้าอีกฝ่ายเจ้าชู้อีกฝ่ายหนึ่งจะสงบสยบอยู่เสียมากกว่ามันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ ไปด้วยกันรอด ในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนฉันว่าเราไม่จำเป็นต้องเป็นโต๊ะกับเก้าอี้ที่สวยงาม หรูหรามากมายอะไรนัก แค่พอดูได้ ใช้งานได้มันก็ไม่น่าเกลียดอะไรแล้วล่ะ เอาแค่แบบโต๊ะเขียนหนังสือ มีโต๊ะหนึ่งเก้าอี้หนึ่ง นั่งแล้วรู้สึกสบาย ถ้าเหนื่อยนักก็ฟุบหน้าหลับตาพักได้ หรือถ้าจะสวยงามก็ขอให้มันดูสวยงามแค่อย่างโต๊ะเครื่องป้งที่ดูดีวยงาม เพราะมันดูแลกันและกันเป็นกระจกส่องสะท้อนซึ่งกันและกันอยู่ร่วมกันอย่างโต๊ะหนึ่งเก้าอี้หนึ่งอย่างเข้าใจ อย่าให้ต้องเป็นเหมือนโต๊ะกินข้าวที่ยิ่งใหญ่ ร่ำรวย แต่ก็ไม่สามารถดูแลเก้าอี้ได้อย่างทั่วถึงกว่าจะแบ่งความห่วงใยมาใส่ใจแต่ละที ก็คงต้องรอจนเหงาเฉาตายกันไปเสียก่อน หรือไม่จำเป็นต้องสวยงามหรือหรูหราถึงขนาดโต๊ะรับแขกที่มีเอาไว้อวดชาวบ้านที่ผ่านมาผ่านไป ใครเห็นใครพบก็สบายใจ แต่เก้าอี้(โซฟา)นี่สิต้องชำใจ โดนโถมโดนทับไม่รู้จักเท่าไหร่เพราะใครๆก็พากันแวะ ถ้าจะมีความรัก ฉันอยากจะรักแบบโต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็พอ ไม่ยิ่งใหญ่ไม่หรูหราแต่อบอุ่นพอให้บ้านน่าอยู่อาศัย ฉันว่าถ้าแท้จริงแล้วคนเราวัดคุณค่ากันจากภายในจิตใจ โต๊ะกับเก้าอี้ก็คงจะไม่ต่างตรงกันที่เราวัดคุณค่ามันจากประโยชน์ใช้สอยมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก บางทีเก้าอี้อาจขาหัก ขาโยกไปบ้างนะ ถ้าตั้งเองไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อาศัยพิงเก้าอี้เอาก็ได้ ก็ไหนๆ เราก็คู่กันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หรือบางทีโต๊ะอาจสึกมีรอยขีดข่วน รอยบิ่นที่มากมายเลยแค่หมั่นเติมเต็มซึงกันและกันก็พอแล้ว เพราะโต๊ะกับเก้าอี้ที่ไม่เข้าชุดกัน เมื่อจับมาวางคู่กันประโยชน์ใช้สอยมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม แค่ความสวยงามมันอาจจะลดน้อยลงไปเท่านั้นเอง
แล้วบ้านของคุณล่ะ อยากให้มีเก้าอี้แบบไหน...เคยคิดเอาไว้บ้างหรือเปล่า?
อับราฮิม ลินคอร์น เคยกล่าวไว้ว่า.... "คนเราจะมีวามสุขได้เสมอทุกเมื่อ ถ้าตั้งใจจะให้ตนเองมีความสุข" ในความเป็นจริง เราไม่สามารถเลือกได้ดั่งใจเราทุกอย่าง ถ้าคุณเป็นเก้าอี้ ....คุณไม่มีทางรู้ได้ในทั้งหมดทุกส่วนว่า...โต๊ะของคุณเขาเป็นอย่างไร คุณอาจไม่จำเป็นที่จะต้องชอบในทั้งหมดของโต๊ะของคุณ และถ้าคุณเองเป็นโต๊ะ...คุณก็คงจะไม่มีทางที่จะพอใจในทุกส่วนที่เป็นเก้าอี้ของคุณ เพราะความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง
ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้....
ฉันเชื่ออย่างนั่น หากแต่...
ศิลปะสุดยอดของการอยู่ร่วมกันคือ การให้อภัย
อะไรที่เค้าขาดไปบ้าง เราก็หมั่นเติม
อะไรที่เค้าขาดไปบ้าง เราก็เอามาเติมให้เราเอง
ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างงดงามมากกว่าไหม
|