จากเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในช่วงสายของ วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 กับมหันตภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ 6 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย เพียงหนึ่งวันหลังจากนั้นเราก็ได้เห็นธารน้ำใจของคนไทยที่หลั่งไหล ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็น เงิน อาหาร เสื้อผ้า และอื่นๆอีกมากมายที่ประดังประเดเข้ามาโดยผ่านหน่วยงานต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน เพียงหวังว่าความช่วยเหลือทั้งหลายเหล่านั้นจะช่วยบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวใต้ได้บ้างไม่มากก็น้อย
โดยผู้ที่มีน้ำใจทั้งหลายเหล่านั้นไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่า สิ่งของเครื่องบรรเทาทุกข์ทั้งหลายจะถึงมือผู้รับที่เดือดร้อนด้วยวิธีการใด ที่ไหน อย่างไร ทั้งหมดสุดแล้วแต่หน่วยงานที่รับไปจะเป็นผู้จัดสรร ซึ่งถ้าเราดูภาพข่าวจากโทรทัศน์ช่องต่างๆ ที่นำเสนอก็จะเห็นภาพของที่พวกท่านทั้งหลายส่งไปกองเป็นพะเนินเทินทึกอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ เช่น ภูเก็ต พังงา เป็นต้น
แต่จากที่มีน้องที่รู้จักกันได้ขออาสาลงไปเป็นล่าม เพื่อให้ช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับภัยพิบัติที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ที่ได้ลงไปในพื้นที่และได้สัมผัสกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง สิ่งที่น้องคนนั้นได้เห็นและประสบพบมานั้น ช่างต่างจากภาพที่เราเห็นในโทรทัศน์เสียเหลือเกิน ชาวบ้านที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านน้ำเค็ม จังหวัดพังงา มีจำนวนประชากรประมาณ 5,000 คน แต่ตอนนี้เหลืออยู่ 100 กว่าชีวิต และ 100 กว่าชีวิตที่เหลืออยู่นี้ก็แทบจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหนเลย ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ทุกคนมีเสื้อผ้าติดตัวคนละ 1 ชุด จากการที่ได้รับความช่วยเหลือในวันแรก แล้วอาหารกับน้ำล่ะจะเอาที่ไหนกิน ก็ต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากกาชาดจังหวัด แต่คำตอบที่ได้รับมาคือไม่ให้ น้องคนเดิมก็เกิดร้อนรนทนไม่ได้ที่เห็นความไม่ชอบธรรมเช่นนั้น จึงได้โทรไปแจ้ง(ด่า)ให้รายการวิทยุที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆที่เกิดขึ้นทราบ หลังจากนั้นไม่นานหน่วยงานที่ถูกกล่าวถึงข้างต้นก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่บางคนไปขอความช่วยเหลือแล้วไม่ได้รับความช่วยเหลือนั้น เกิดจากความไม่แน่ใจของเจ้าหน้าที่ว่าจะเป็นผู้แอบอ้างหรือไม่ แค่ขอข้าวกินไม่น่าคิดมากขนาดนั้นเลย
ถ้าคุณได้ดูรายการคุยคุ้ยข่าว ที่คุณรัฐภูมิ ได้ลงไปตามหาเทวดาของเค้า จะเห็นว่ามีเด็กหนุ่ม 3 คนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ แล้วคุณเห็นอาหารที่เค้าทานหรือไม่ มันคือ มาม่าผัด ที่อยู่ในถุงก๊อบแก็บ 1 ถุง กับคน 3 คน สภาพไม่ต่างจากเศษอาหารที่เวลาเราทานเหลือแล้วเทใส่ถุงเพื่อจะนำไปทิ้ง แต่ภาพข่าวที่เราเห็นออกอากาศทุกช่องที่ ภูเก็ต มีอาหารปรุงสุกใหม่ๆ บรรจุอยู่ในกล่องโฟม และทุกกล่องก็มีไข่ดาวด้วย ทุกคนล้วนประสบชะตากรรมที่เหมือนกัน เจ็บปวดและสูญเสียเหมือนกัน แต่ความช่วยเหลือที่ได้รับ ช่างต่างกันเหลือเกิน ไม่มีอะไรจะพูดต่อเพียงแค่อยากบอกว่า "มันคือความเหมือนที่แตกต่าง คือการเอาหน้าหรือว่าช่วยเหลือ" แล้วคุณล่ะรู้สึกย่างไร ?
|