ป่วย
วันนี้ เป็นอีกวันหนึ่งที่ฉันจะต้องออกไปทำมาหากินนอกบ้านตามประสาคนไม่มีอันจะกิน (นาน ๆ) การเดินทางก็ง่าย ๆ ขึ้นรถเมล์ รถของมวลชนชาวกรุงเทพฯ นั่นเอง วันนี้ฉันต้องไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ฯ เมื่อรถเมล์จอดทุกคนล้วนเบียดเสียดแย่งกันขึ้นเหมือนรถเมล์คันนี้เป็นคันสุดท้าย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ถ้าเกิดคนหนึ่งล้มลงคอยดูเถอะ ตาย! สถานเดียว เมืองไทยของเราน่าจะเอาอย่างประเทศอื่น ๆ เค้าบ้าง เข้าแถวกันเป็นระเบียบเชียว เอาล่ะเข้าเรื่องกันซะที รถกำลังจะออกแล้วววววว........
ป่วย คือผู้ชายคนหนึ่งซึ่งขึ้นรถเมล์เหมือนกัน ฉันคิดในใจ (พ่อแม่คิดอะไรอยู่นะ เห็นหน้าลูกแล้วตั้งชื่อว่าป่วย แต่ก็ช่างมันเถอะ ป่วยก็ป่วย) ป่วยนั่งอยู่ด้านหลังคนขับ ฉันได้คุยกับเค้า เค้าเล่าว่าทุกวันจะต้องมาขึ้นรถเมล์ที่ป้ายนี้เป็นประจำเวลาเดิม นั่งไปจนสุดสายแล้วก็ต้องนั่งกลับมาอีกทำอย่างนี้ทุกวัน เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว เค้าเล่าให้ฟังอย่างตื่นเต้นว่า เค้าพบคนทุกรูปแบบไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงคนแก่ บางคนก็คุยกับเค้า บางคนก็ไม่ยอมแม้กระทั่งมองหน้าเค้าทั้ง ๆ ที่เค้าก็พยายามยิ้มและทำท่าอยากจะพูดด้วย วันนี้เค้าเล่าให้ฉันฟังถึงการนั่งรถเมล์ของเค้า ซึ่งฉันก็คิดว่าฉันว่างพอจะฟังเพราะฉันนั่งเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร (ก็อยู่บนรถเมล์นี่หน่า) เค้าเล่าว่า วันหนึ่งคิดว่าทำไมคนเราต้องแย่งกันขึ้นรถเมล์ ทำไมต้องแย่งกันนั่ง ทำไมต้องแย่งกันโหน ทำไมไม่ค่อย ๆ ขึ้น ค่อย ๆ นั่ง ค่อย ๆ โหน (ฉันคิดในใจ เออไอ้นี่น่าจะไปบวช อะไรก็ต้องค่อย ๆ ) แล้วเค้าก็ยังบอกว่า เค้าเคยดูทีวี เมืองนอกเวลาเค้าจะไปไหนกันก็ต้องมีการเข้าแถวขึ้นรถเมล์ มีน้ำใจให้กันเห็นคนแก่ก็ลุกให้นั่ง รถแน่นเค้าก็ไม่ขึ้นไม่เป็นไรรอคันต่อไปก็ได้ ตีตั๋วก็ตอนขึ้นเลย ไม่ต้องมีกระเป๋ารถเมล์ไปเก็บเงินเหมือนขอทาน ผมว่าดูเป็นระเบียบดีออก แต่ไม่รู้ทำไมเมืองไทยเราทำเหมือนเมืองนอกไม่ได้เนอะพี่เนอะ (เออ เนอะก็เนอะ ฉันตอบ)
แล้วเค้าก็เล่าต่ออีกว่า ตำรวจก็เหมือนกัน มันโบกรถยังไง โบกแต่รถคนมีตังค์ รถเก๋ง รถเบนซ์ ถ้ารถเมล์รอก่อนจะรีบไปตายหรือไงวะ น้านมันเป็นยังงั้น แล้วมารณรงค์ทำไมให้คนจอดรถไว้บ้าน แล้วขึ้นรถเมล์ ผมคิดว่ามันคงจะขี้เกียจโบกรถเก๋ง เพราะได้ส่วยน้อยแน่เลย ถ้ารถมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ล่ะก็หวาน เพราะตั้งแต่นั่งมาเกือบ 3 เดือนเนี่ย ยังไม่เคยเห็นมันโบกให้รถเมล์ไปก่อน รถเก๋งไปทีหลังเลย ให้ตาย ผมว่ารัฐบาลน่าจะเข้ามาแก้ไขบ้าง คนขึ้นรถเมล์เป็นร้อย รถเก๋ง 2 คน มันเห็นแก่ตัวนี่หว่า นั่งไปซักพักก็จะถึงสุดสายแล้ว ซึ่งก็ใกล้แล้วซิที่ทำงานของฉัน แต่ป่วยก็ยังไม่มีทีท่าว่าเรื่องเล่าของเขาจะจบลง
ถึงแล้ว สุดสายป้ายรถเมล์ ฉันก็กำลังจะล่ำลาป่วย พี่กระเป๋ารถเมล์ก็มาบอกฉันว่า น้องเก่งเนอะคุยกับป่วยจนสุดสายได้ อ้าว! พี่ทำไมเหรอ ป่วยเค้าก็คุยสนุกนะ ได้ความรู้ดีออกพี่ ความคิดเค้าก็ดีนะพี่ พี่ก็ว่าดีแต่ว่า........มาตรงนี้น้องเอ้าลาป่วยซะ ฉันหันไปบอกป่วย ไปล่ะนะแล้ววันหลังจะคุยด้วยอีก ป่วยยิ้มดีใจสุด ๆ สังเกตได้จากรอยยิ้ม แล้วพี่กระเป๋ารถก็บอกฉันว่า ที่พี่บอกว่าน้องเก่ง ก็คือป่วยนะมันไม่ได้ชื่อป่วยแต่มันป่วยจริง ๆ แล้วมันชื่อ โอ๊ค มันบ้าเศรษฐกิจ (ฉันอึ้งแล้วถามต่อ) แล้วทำไมเค้าขึ้นรถเมล์ตั้ง 3 เดือนแล้วไม่มีคนไล่ลง หรือไม่ไปโรงพยาบาลล่ะพี่ โถ่เอ๋ย! น้องใครจะไปไล่มันลง ก็มันเป็นลูกคนขับรถเมล์นะซิ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปทำงานเถอะน้อง...
ชิบเป๋งเอ้ย! โง่เลยตู.............