|
ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
เรียน-เล่นกีฬาแบบกล้วยๆ
เขียนโดย Krisada Pramualsap
|
|
Rated: 
by 21 users |
|
|
|
|
|
|
ผู้ฝึกสอนกีฬาไทยบางท่าน มีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดูกาลแข่งขัน เป็นแชมป์ก็มากมาย ถ้วยเต็มบ้านเต็มที่ทำงาน แต่ไม่สามารถปั้นสร้างลูกศิษย์ให้มีฝีมือทัดเทียมตัวเองได้ เพราะส่วนใหญ่ก็จะสอนกันแบบเดิมๆ ตามที่ถูกฝึกหรือถ่ายทอดกันมา นักกีฬาก็พัฒนาไม่ทันต่างชาติสักที ที่ฝีมือดีก็อ่อนปวกเปียกเรื่องจิตใจ ที่หึกเหิมก็ก้าวร้าวจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เรื่องโภชนาการนั้นก็สำคัญ ถ้าโค้ชหรือนักกีฬายังปล่อยให้มีโภชนาการแบบตามใจปาก อยากแซ่บก็แซ่บประเภทอร่อยเข้าไว้ จะเอาเรี่ยวเอาแรงที่ไหนไปสู้รบปรบมือ ที่บำรุงก็บำรุงกันจนไม่ได้สัดส่วน จนเกินสภาวะไม่สมดุลย์ เกิดกรดเกิดอนุมูลอิสระไปกันใหญ่ ผมเชื่อมั่นในภูมิปัญญาของคนไทยว่าสามารถทำได้ทุกเรื่อง แต่ยังขาดเรื่องการประสานความรู้ รวมทั้งสิ่งที่เรียกว่า "ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย" ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโค้ชต่างชาติ หากการฝึกสอนนั้นไม่ใช่ธุรกิจหรือเพิ่มเครดิตให้กับตนเอง เพราะเด็กคือผ้าขาวครับ สอนแบบตบหน้าหรือเอาอุปกรณ์กีฬาปาหัว ฟังเสียงด่าก็ไม่รู้เรื่อง เยาวชนก็ซึมซับของแปลกปลอมเข้าไปแทนที่จิตใจอันใสสะอาด (ดูแล้วน่าสมเพช)
ตอนนี้แบดมินตันได้ถูกจัดให้เป็นกีฬานำร่อง มีแบบแผนการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับกีฬาอื่นๆ โดยมีการกีฬาแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย มอบหมายให้ชมรมผู้ฝึกสอนแบดมินตัน โดยมี รศ.ดร. นภพร ทัศนัยนา เป็นผู้ร่างหลักสูตร และดำเนินการจัดทำหลักสูตรผู้ฝึกสอนระดับชาติขึ้นแล้ว ขั้นต่อไปก็คงเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ผู้ฝึกสอนไทยจะเปิดใจยอมรับความรู้ที่ได้ถูกบูรณาการขึ้นแล้วโดยผู้ทรงคุณวุฒิของไทยเราหรือไม่ เพราะผมไม่อยากให้หลายท่านปิดตายอยู่กับความรู้หรือความคิดเดิมๆ ซึ่งคิดหรือเชื่อมั่นว่าตัวเองนั้นอัพเดททันสมัยที่สุดแล้ว หลายสิ่งที่ผมเชื่อว่าท่านไม่รู้ อย่างเช่น โภชนาการกีฬา การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา ตลอดจนกระทั่งการวางแผนการฝึกซ้อมและ การวิเคราะห์การแข่งขัน
ส่งท้ายนี้ผมขอฝากเรื่องของจิตวิทยาการกีฬา ที่นักกีฬาแม้จะมีร่างกายสมบูรณ์ผ่านการฟิตซ้อมมาแล้วเป็นอย่างดี ก็ยังต้องมาพ่ายแพ้ในเรื่องของสภาพจิตใจและการควบคุมอารมณ์ คงไม่ใช่เพราะนักกีฬาหรือผู้ปกครองฝ่ายเดียว ผู้ฝึกสอนนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะบรรจุข้อมูลลงหัวสมองของนักกีฬาโดยเฉพาะเด็กเล็กๆ จนถึงวัยรุ่นซึ่งเป็นช่วงสำคัญในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ซึ่งในการสอนกีฬา ต้องปรับให้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียนเหมือนกัน ทำอย่างไรจะจูงใจให้นักกีฬาสนใจ และเข้าใจได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้วิธีรุนแรงและหยาบคาย (เหมือนบางประเทศ) ผมขอยกเอาตัวอย่างการนำวิธีสอนแบบไทยๆ ของ อ.สมหวัง วิทยาปัญญานนท์ มาประยุกต์ใช้ดังนี้
กล้วยอ่อน หรือ ปลีกล้วย เหมาะสำหรับทำแกง เพื่อลดรสฝาด และลดความแข็งของเปลือก เหมือนการสอนเด็กอ่อนที่ต้องการความกลมกล่อมนุ่มนวล ไม่ต้องละเอียดลึกซึ้งมากนัก ค่อยให้ปุ๋ยให้น้ำ ประคับประคองรอวันเจริญเติบโตเป็นลูกกล้วยที่สมบูรณ์ต่อไป อย่าซาดิสเร่งลูกให้โตเร็วๆ เคี่ยวเข็ญบรรจุความหึกเหิมก้าวร้าวลงไป อนาคตก็จะเป็นลูกกล้วยที่กลายพันธุ์
กล้วยดิบ มีเนื้อแน่น ๆ เหมาะสำหรับทำกล้วยฉาบ มีทั้งรสเค็มและรสหวานเหมือนการสอนเด็กวัยรุ่นที่ต้องโลดโผนจ๊าบ ๆ เรียนไปสนุกไป ผู้ฝึกสอนที่มีความรอบรู้มีแนวความคิดแบบเปิดกว้างรับรู้สิ่งใหม่ๆ ก็จะสามารถพลิกแพลงเพิ่มพูนทักษะและสร้างความน่าสนใจให้นักกีฬาสนุกในการฝึกซ้อมได้เป็นอย่างดี การกระทำที่เรียกว่า "หักดิบ" นั้นไม่เกิดผลดีแน่นอน เพราะวัยนี้มีความแปรปรวนทางอารมณ์สูง แรงเค้ามีเยอะแต่ขอให้สนุกก็แล้วกัน
กล้วยกึ่งสุก เหมาะสำหรับทำกล้วยบวชชีมีรสกลมกล่อม เนื่องจากน้ำกะทิ เหมือนการสอนผู้ที่พ้นวัยโลดโผนมาแล้ว เป็นนักกีฬาที่มีความคิดและประสบกรณ์ผ่านการฝึกซ้อมและแข่งขันใช้การได้แล้ว เพียงแต่ชี้แนะให้เห็นประโยชน์หรือเทคนิคต่างๆ ด้วยการยกตัวอย่างของเหตุและผลที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเล่นหรือแข่งขัน บวกความรู้หรือหลักการด้านวิทยาศาสตร์เข้าไป
กล้วยสุก คงจะเป็นที่มาของคำว่า "แก่เกินแกง" ที่หลายท่านคงเคยได้ยิน เพราะเนื้อกล้วยที่สุกจะอ่อนเหลว เหมาะสำหรับทำกล้วยตากหรือกล้วยอบ บางครั้งก็ต้องเอาไปชุบน้ำผึ้ง เหมือนกับการสอนคนแก่อย่างผม ซึ่งในวัยนี้คงไม่ค่อยมีใครเรียนหรือฝึกซ้อมแบบหนักๆกันแล้ว แต่อาจจะต้องเล่นกีฬาเพื่อการแข่งขันหรือกระชับมิตร และคนแก่นั้นก็ไม่ชอบวิธีการบอกสอนแบบกระโชกโฮกฮากใช้อารมณ์ ต้องบอกสอนด้วยความเคารพ พูดคำหวาน ไม่กระทบจิตใจ เล่นลูกออกตั้งเยอะก็บอกนิดเดียว ให้กำลังใจกัน เพราะผู้สูงอายุมักใจน้อย ต้องแนะนำแบบนิ่มนวล การเล่นกีฬากับคนแก่ ถ้าหากคุณฝีมือไม่เจ๋งจริงแต่อวดเก่งหรือพูดจาไม่เข้าหู เกมนั้นก็คงกร่อย และเตรียมตัวแพ้คู่ต่อสู้ได้เลย
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
 |
Knowledge Center |
|
 |
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
