ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
เงินทองกองอยู่ตรงหน้า
เขียนโดย Jumpseated
|
Rated:
by 6 users |
|
|
|
|
เงินทองกองอยู่ตรงหน้า
เมืองพาราณสีมีอดีตแห่งศิลปวัฒนธรรมที่ยาวนาน นานเคียงคู่กันมากับชมพูทวีป ดินแดนแห่งอารยธรรม และความมั่งคั่งในโบราณสมัย พาราณสีคับคั่งไปด้วยผู้คนทุกระดับชั้นของเศรษฐกิจตั้งแต่ยาจก คนเข็ญใจ ผู้ใช้แรงงาน นักคิด และพ่อค้าผู้มั่งคั่ง ในบรรดาพ่อค้าเหล่านั้น มีเรื่องพ่อค้าคนหนึ่งน่าสนใจมาก เพราะเขาได้ใช้ความเฉลียวฉลาดของเขาพาตนให้พ้นจากความยากจน จนกระทั่งในที่สุด ได้รับตำแหน่งเป็น เศรษฐีแห่งพระนคร อันเป็นตำแหน่งที่พ่อค้าจำนวนมากอยากได้ เพราะเป็นการยืนยันความมั่งคั่งของเขาว่าถึง ระดับที่พระราชาก็ยอมรับ ตำแหน่งนี้ได้มาโดยการแต่งตั้งจากพระราชาเท่านั้น วิธีการทำธุรกิจของเขาซึ่งเล่าขาน สืบต่อกันมาจากคนรุ่นพ่อรุ่นลูก รุ่นแล้วรุ่นเล่า จนกระทั่งในที่สุดมีผู้จดจารึกลงไว้เมื่อเกือบสองพันปีมาแล้ว ยังเป็นบทเรียนที่ไม่ล้าสมัยแม้ในปัจจุบัน
แทรกข้อคิด คนมีปัญญาเฉลียวฉลาดย่อมตั้งตนได้ด้วยทุนแม้น้อยดุจคนก่อไฟน้อยๆให้เป็นกองใหญ่ฉะนั้น
ท่านเศรษฐีได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เมื่อเรายังหนุ่มอยู่นั้น เราเป็นกำพร้า เพราะพ่อแม่ของเราตายไปแล้วตั้งแต่เรายังเด็ก เหลือเราซึ่งเป็นลูกคนเดียว เราก็ได้อาศัยคนอื่นและรับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆตามแต่ว่าจะมีใครมาจ้าง ด้วยแรงงานของเรา เรายากจนมาก และไม่รู้จะประกอบการงานใดเพื่อเลี้ยงชีพให้รุ่งเรืองขึ้นมาได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่เรากำลังเก็บกวาดใบไม้อยู่ บริเวณถนนหลวงหน้าบ้านท่านจุลลกะท่านเศรษฐีกำลังจะออกไปธุระนอกบ้าน เดินผ่านหน้าเราไป และแลเห็น หนูตายตัวหนึ่งอยู่กลางถนน ซึ่งยังไม่มีใครเก็บกวาดไปทิ้งท่านเศรษฐีได้กล่าวลอยๆขึ้นมาว่า คนมีปัญญาย่อมใช้ หนูตัวนี้ให้เป็นประโยชน์เลี้ยงลูกเมียและประกอบการงานได้ เรายืนอยู่ไม่ไกลจากที่นั่น ย่อมได้ยินคำพูดของท่าน เศรษฐี เราคิดเพียงว่า ท่านเศรษฐีคงตั้งใจพูดให้เราได้ยิน และท่านคงมองเห็นว่าหนูจะกลายเป็นเงินทองได้ เราเห็นหนูตายมาหลายครั้งหลายหนแล้ว ก็รอแต่ว่าให้เจ้าพนักงานหรือผู้มีหน้าที่มาเก็บไปเหมือนกับที่เราเก็บกวาด ใบไม้แห้งนี่เอง เมื่อท่านเศรษฐีพูดเช่นนั้นท่านคงมองวิธีทำเงินให้งอกเงยขึ้นมาจากหนูตัวนั้น แม้เรายังไม่รู้ว่า ต้องทำอย่างไรต่อไปกับหนูตัวนั้น เราซึ่งเป็นคนยากจนก็ควรจะเชื่อท่านไว้ก่อน เราจึงหาใบไม้สะอาดๆมาใบหนึ่ง เก็บหนูตัวนั้นวางบนใบไม้ แล้วนำไปที่ตลาด ตั้งใจว่าจะลองไปนั่งขายที่ตลาดดู เราคิดว่าไม่เสียหายอะที่จะเสียเวลา ไปตลาด เราเองก็มีเวลามากมายที่ไม่รู้จะใช้ทำอะไรอยู่แล้ว ทางเดินไปตลาดต้องผ่านบ้านพราหมณ์ครอบครัวหนึ่ง พอคนใช้ในบ้านพราหมณ์เห็นว่า เราถือหนูตายเดินไป ก็ร้องให้หยุดก่อน แล้วเข้าไปแจ้งเจ้านายของเขา พราหมณ์ผู้เป็นนายกำลังต้องการอาหารให้แมวที่เลี้ยงเอาไว้ แมวชอบหนูอยู่แล้ว และซื้อหนูตายถูกกว่าจะไปหา ซื้อเนื้อชนิดอื่นๆมาเป็นอาหารให้แมว เราจึงขายหนูไปได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ไปถึงตลาด เราได้เงินมากากณึกหนึ่ง
แทรกข้อคิด สิ่งต่างๆที่มีอยู่ทั่วไป ที่คนโยนทิ้งหรือรังเกียจนั้น อาจมีค่าในสายตาผู้อื่นก็ได้
หนูตัวหนึ่งที่เคยแต่ต้องเสียเงินจ้างคนมาเก็บไปทิ้ง ยังสามารถสร้างเงินขึ้นมาได้ ปัญหาของเราอยู่ที่ว่า จากนั้นเราจะทำอะไรต่อไปได้ เพราะเราคงจะไม่สามารถหาหนูตายไปขายได้ทุกวัน หรือถึงหาได้ คนซื้อหนูตาย ก็อาจจะไม่ได้มีทุกวัน วันที่ขายหนูได้น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่สิ่งของย่อมมีวันหมด ท่านต้องการหาวิธีการที่จะทำให้ของที่คนไม่ต้องการไปเจอกับคนที่ต้องการของนั้น และของที่ได้มาโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงก็คงไม่มีมากพอจะทำให้เราสามารถสร้างตัวได้ เรานึกถึงแต่คำของท่าน เศรษฐีจุลลกะที่ว่า คนมีปัญญาย่อมใช้หนูตัวนี้เลี้ยงลูกเมียและประกอบการงานได้ แต่ท่านยังไม่มีลูกเมีย จึงมุ่งที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้ได้เงินมาจากหนูตายทำให้เราประกอบการงานได้ หัวใจอยู่ที่ว่า เราต้องใช้ปัญญา เราเที่ยวเก็บหนูตาย และเศษสิ่งของต่างๆเพื่อนำไปขายในตลาด หาเงินมาเพิ่มเติมดังที่ท่านพูดเหมือนกัน และเราก็พบว่ากิจการเช่นนี้ไม่ยั่งยืน เพราะของมีวันหมด และยากที่จะเลี้ยงชีพหรือประกอบการงานด้วยการ เก็บเศษขยะได้ตลอดไป ในเมืองพาราณสีนี้ มีการบูชาเทพต่างๆเป็นเรื่องประจำ และราชสำนักก็ใช้ดอกไม้ จำนวนมากทุกวัน วันหนึ่งขณะที่เรานั่งพักเหนื่อยที่อยู่ใกล้ประตูเมือง พร้อมกับตั้งคำถามว่าเราควรจะทำอย่างไรต่อไป ปัญญาจะมาจากทางไหนที่จะสร้างเงินให้เราได้ วันนั้นเราสังเกตเห็นสิ่งที่ผ่านตาเราไปจนชินโดยที่เราไม่ได้ สังเกตมาก่อน เราเห็นช่างเก็บดอกไม้ทูนดอกไม้ที่เก็บมาแล้ว เดินกลับเข้าเมืองมาอย่างเร่งรีบ ท่าทางเขาอิดโรย เพราะอากาศเริ่มร้อน และเขาต้องออกไปแต่เช้าตรู่ก่อนตะวันขึ้น เรานึกในใจว่า นี่ถ้าเราเป็นช่างดอกไม้ แล้วมีใครให้น้ำเราดื่มสักหน่อยเราจะพอใจเป็นอย่างมาก ความคิดหนึ่งวาบขึ้นมา เราพอมองเห็นลู่ทางจะ ทำเงินหนึ่งกากณึกให้เป็นเงินกหาปนะได้ แม้เราจะไม่มั่นใจนัก เราก็จะลองดู เผื่อจะเป็นช่องทางทำมาหากินได้ ถ้าไม่ได้ก็ถือเสียว่าเราได้ทำความดีต่อเพื่อนผู้หาเช้ากินค่ำเช่นเดียวกับเรา เรานำเงินเล็กน้อยที่เรามีไปซื้องบ อ้อยมา แล้วหาหม้อใบหนึ่งตักน้ำไป เรานำน้ำนั้นตั้งที่ทางจะเข้าประตูเมืองในเวลาสาย ตอนที่ช่างดอกไม้จะกลับ มาจากป่า เมื่อช่างดอกไม้เดินมาจะผ่านประตูเข้าเมือง เราก็เสนอให้ชิ้นน้ำอ้อยคนละหน่อยหนึ่งแล้วให้ดื่มน้ำหนึ่ง ซองมือ พวกช่างดอกไม้แต่ละคนไม่ใช่คนมั่งคั่งที่จะมีเงินซื้อน้ำดื่ม แต่เขาก็พอใจที่ได้บริการจากเรา เพราะเขาก็หิวน้ำแต่ละคนแบ่งดอกไม้ให้เราคนละกำมือ ท่านนึกออกหรือไม่ว่าดอกไม้คนละกำมือจากหลายๆคน รวมกันแล้วเราได้ดอกไม้วันละกี่กำ เมื่อได้ดอกไม้มาแล้ว เราก็นำไปนั่งขายอยู่ที่หน้าเทวาลัยเช่นเดียวกับพ่อค้า ดอกไม้คนอื่นๆ ดอกไม้ของเราก็สดและงามไม่แพ้คนที่มีเงินจ้างคนไปหาของในป่า หรือคนที่มีแหล่งปลูกดอกไม้ ของตนเอง แต่เราก็คิดได้ว่า เราคงไม่สามารถยึดเอาบริการน้ำเพียงแค่นี้เป็นการอาชีพได้ เพราะเมื่อเห็นเราทำ แล้ว ใครๆก็คงจะทำเป็น
แทรกข้อคิด ถ้าเราเลือกบริการที่ถูกต้อง คือถูกสถานที่ ถูกเวลา ถูกความต้องการของผู้ซื้อ เราย่อมค้าขายได้กำไร
Source : from mail
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
Knowledge Center |
|
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|