ชื่องานวิจัย                           การผลิตและการตลาดเครื่องถมนคร  ในเขตอำเภอเมือง             

จังหวัดนครศรีธรรมราช

ชื่อผู้วิจัย                                นางสาวมรกต  คุ้มประสิทธิ์

อาจารย์ที่ปรึกษา                  อาจารย์วีณา ลีลาประเสริฐศิลป์

ปีการศึกษา                           2548

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการผลิตและการตลาดเครื่องถมนคร ในเขต        อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของการผลิตและการตลาดเครื่องถมนคร ศึกษาผลกำไรขาดทุนจากการผลิต ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อมูลค่าผลผลิตเครื่องถมนคร ศึกษาความยืดหยุ่นและผลตอบแทนต่อขนาดจากการใช้ปัจจัยการผลิต ศึกษาโครงสร้างตลาดเครื่องถมนคร และศึกษาสภาพปัญหาในการผลิตและการตลาดเครื่องถมนคร

ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์โดยการสำมะโนประชากรผู้ผลิตเครื่องถมนคร ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 32 หน่วยผลิต  การวิเคราะห์ข้อมูลโดยได้ใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพื่อสรุปลักษณะทั่วไปของกลุ่มประชากร และวิเคราะห์ระดับปัญหาในการผลิตและการตลาด และใช้สถิติอนุมานได้แก่ ค่าสถิติ และสมการถดถอยพหุคูณ (Multiple regression) เพื่อทดสอบความมีอิทธิพลของตัวแปรอิสระต่อตัวแปรตาม ซึ่งจากการศึกษาได้ผลดังนี้

ผู้ผลิตเครื่องถมในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีทั้งหมด 32 หน่วยผลิต ผู้ผลิต     ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วง 41 – 45 ปี มีระดับการศึกษาในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในการประกอบการส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพผลิตเครื่องถมเป็นอาชีพหลักเพียงอย่างเดียว โดยได้รับความรู้ในการผลิตมาจากประสบการณ์ในการทำงาน เครื่องถมที่ทำการผลิตส่วนใหญ่เป็นเครื่องถมประเภทเครื่องประดับ แรงงานที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานในครัวเรือน การจ่ายค่าจ้างจะจ่ายตามจำนวนชิ้นงาน โดยผู้ผลิตส่วนใหญ่จะใช้เงินทุนส่วนตัวในการผลิต ด้านการจำหน่ายผู้ผลิตจะมีการจำหน่ายทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ซึ่งมีลักษณะการจำหน่ายโดยเป็นทั้งผู้ค้าปลีกและค้าส่ง

ในการประกอบการผลิตนั้นหน่วยผลิตจะมีผลการดำเนินงานเป็นผลกำไร  โดยมีกำไรเฉลี่ยต่อปีต่อหน่วยผลิตเท่ากับ 40,460.93 บาท ซึ่งในศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตเครื่องถมนครพบว่า    ปัจจัยทุน แรงงาน และ เงินทุนหมุนเวียนเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อมูลค่าผลผลิตเครื่องถมนครในทิศทางเดียวกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 ส่วนการศึกษาผลตอบแทนต่อขนาดจากการใช้ปัจจัยการผลิต พบว่า การผลิตเครื่องถมนครอยู่ในระยะที่มีผลตอบแทนต่อขนาดลดลง (Decreasing return to scale)

การวิเคราะห์โครงสร้างตลาดเครื่องถมนครด้วยวิธี การวัดอัตราการกระจุกตัว (CR₈) และดัชนีเฮอร์ฟินดาห์ล (HI) พบว่าทั้ง 2 วิธีให้ผลการวิเคราะห์ที่ตรงกันว่า ตลาดเครื่องถมนครมีลักษณะโครงสร้างตลาดเป็นตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด ส่วนการศึกษาความคิดเห็นของผู้ผลิตเดี่ยวกับปัญหาในการผลิตและการตลาดเครื่องถมนคร พบว่า ผู้ผลิตมีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาในการผลิตและการตลาดอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อแบ่งพิจารณาปัญหาออกเป็นรายด้านก็จะพบว่า ผู้ผลิตเครื่องถมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาด้านแหล่งเงินทุนในระดับน้อย  ปัญหาเกี่ยวกับแรงงานมีปัญหาอยู่ในระดับน้อย         ปัญหาเกี่ยวกับวัตถุดิบมีปัญหาอยู่ในระดับมาก และปัญหาด้านการตลาดมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง