ศักยภาพ หรือ ความสามารถที่ซ่อนเร้น คือ พลังงานศักย์ที่ซ่อนอยู่ภายใน เปรียบเสมือนน้ำที่ถูกขังอยู่ในเขื่อนที่ดูสงบนิ่ง แต่หากสักวันหนึ่ง เขื่อนมิอาจทนแรงกระทำมหาศาลของน้ำที่ถูกแรงโน้มถ่วงของโลกกระทำอยู่ พลังทำลายล้างรุนแรงก็จะก่อวินาศภัยได้อย่างน่ากลัวทีเดียวเชียว
ทีนี้ หากมองกันถึงศักยภาพของคนกันบ้าง
ศักยภาพไม่อาจประเมินด้วยสายตา ไม่ว่าบุคคลิกของคนจะน่าเชื่อถือไม่ กระทั่งบางครั้ง ความร่ำรวยเองก็ยังไม่อาจการันตีได้ 100%~ ว่า เขาเป็นคนมีศักยภาพ เหตุเพราะ เป็นไปได้ว่า ความสำเร็จที่ได้มา อาจจะมาจาก จังหวะชีวิต ความบังเอิญ ซึ่งยังคงมีความเป็นไปได้อยู่
ศักยภาพคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวบุคคล สิ่งที่จะสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ ต้องพิจารณาหลาย ๆ องค์ประกอบ ผู้ที่มีประสบการณ์อาจประเมินจากการได้พูดคุย และ ทำกิจกรรมที่จะต้องแสดงความสามารถเฉพาะ หรือ บุคคลอื่น ๆ อาจบอกว่า เขาเป็นคนมี ศํกยภาพ จากผลงานที่ปรากฏ เป็นเครื่องยืนยัน
ศักยภาพ มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออนาคต แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดซะทีเดียว เพราะความสำเร็จ นอกจากศักยภาพแล้ว ยังมีเรื่องของ ทัศนติ วิสัยทัศน์ และที่สำคัญคือ การวางแผนอย่างรอบคอบรัดกุม โดยมี "ความฝัน" เป็นพลังขับเคลื่อน
ศักยภาพอย่างเดียวเองเหรอ??
มีคนจำนวนไม่น้อย ที่มีหน้าที่การงานที่ใหญ่โต มีความมั่นคงในชีวิต มีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป หากวัดระดับความสำเร็จ ก็ถือได้ว่า เป็นคนที่มีศักยภาพ แต่อาจเป็นความสำเร็จ "ในระดับหนึ่ง" เท่านั้น... ตามความคิดเห็นของผู้เขียน ผู้เขียนคิดว่า สาเหตุเพราะ ศักยภาพของคนที่ทุ่มเทกับงาน ยังคงมีขีดจำกัด นั่นคือ ความเป็นมนุษย์...
บุคคลที่ใช้ศักยภาพแลกมาซึ่งรายได้ เป็นการใช้ศักยภาพทางเดียว คือ ใช้ศักยภาพของคนเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจเพียงพอ สำหรับงานลูกจ้าง หรือ พนักงาน ที่ทำงานให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วไป โดยมีเงินเดือนที่สูงลิบลิ่ว หากวัดโดยใช้เงินเดือนของพนักงานระดับอื่น ๆ เป็นบรรทัดฐาน
ที่ผู้เขียนเกริ่นนำเช่นนี้ เพราะความเป็นจริงคือ คนเรานั้น ต่อให้มีศักยภาพสูงเพียงใด ก็ไม่สามารถที่จะแยกร่างเป็นหลาย ๆ คน เพื่อที่จะทำงานหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันได้ นั่นคือขีดจำกัดสำคัญ
หนังสือหลายเล่มที่เขียนอธิบายถึง พลังของการตลาดแบบเครือข่าย มีเหตุผลที่สนับสนุน ว่ามีความเป็นไปได้และมีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะการตลาดแบบเครือข่ายคือการสร้างองค์กรที่สามารถสร้างรายได้ที่น่าประทับใจให้กับเจ้าของ แต่ ผู้เขียนคิดเลยไปถึงเรื่องของ จำนวนของคนในเครือข่าย ... การตลาดแบบเครือข่าย เป็นการยากที่จะชักจูงบุคคลอื่นเข้ามาร่วมอุดมการณ์ ผู้เขียนคิดว่า สิ่งที่ยากที่สุดในการทำงาน คือ เปลี่ยนทัศนคติของคน การทำให้คนที่เคยคิดลบ กลับมาคิดบวก เป็นเรื่องละเอี่ยดอ่อน ที่ยาก สำหรับคนที่ขาดจิตวิทยา
สิ่งที่สำคัญคือ เครือข่าย ซึ่งก็คือ "คน" ยังมีความ เสถียร ที่ไม่คงที่ มีโอกาสที่จะเลิกกลางคัน หรือ "หมดไฟ" ได้ ในสักวันหนึ่ง
ศักยภาพของเงิน
อาจมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังมองไม่เห็นศักยภาพที่ซ่อนเร้น ของเงิน ที่อยู่ในกระเป๋า สิ่งที่เงินได้เปรียบคนก็คือ เงินนั้นไม่บ่น จึงเหมาะที่จะนำเงินมาทำงานให้เรา และเงินนั้น ถ้าเป็นประเภทเดียวกัน (มูลค่าเท่ากัน) ก็มีความสามารถในการชำระหนี้ได้เท่ากัน จึงหมดห่งเรื่องของความมีเสถียรภาพ!!
เงินไม่แบ่งแยกเพศ แต่กระนั้น หากนำเงินไปไว้ในที่ ๆ สมควร เงินก็จะออกลูกออกหลานให้เจ้าของมีความสุขได้ไม่ยากเย็นนัก ซึ่งการนำเงินมารวมอยู่ด้วยกันในกระเป๋าโดยไม่มีการใช้ศักยภาพของคน วางกลยุทธ บริหาร จัดการ อย่างบูรณาการ ก็ไม่อาจจเพิ่มจำนวนเงินได้
เงินรุ่นลูกรุ่นหลานนั้น คือผลกำไร ที่สามารถนำมาเป็น "พ่อพันธ์ แม่พันธ์" รุ่นใหม่ได้ทันที ไม่ต้องรอให้โตเสียก่อน ความน่าจะเป็นต่อจากนั้น คือ การเพิ่มขึ้นของเงิน ที่มีรูปแบบเดียวกันกับ การแบ่งเซลล์ของสิ่งมีชีวิตในช่วงหลังจากปฏิสนธิ!@! ภาษาไทยเรียกว่า โตแบบพหูคูณ ภาษาอังกฤษ เขาเรียกว่า การโตแบบ ฟังค์ชั่น Exponential คือโตไม่หยุด โตเร็วขึ้นเรื่อย ๆ !! (โดยที่เราจะไม่พูดถึงเครื่องมือในการที่จะนำเงินไปผสมพันธ์ (ฮา))
ศักยภาพของคน และ ศักยภาพของเงิน คือส่วนผสมที่จะต้องมีความเหมาะสม เป็นสัดส่วนที่ คนมี "ศักยภาพ" แต่ละคนจะคิดได้ จึงจะปรากฏผลลัพธ์ เป็น ความสำเร็จระดับ "อภิมหา"
เหนือสิ่งอื่นใด ความสำคัญลำดับแรกที่ต้องพูดถึงก่อน ก็คือ ความฝัน....
คนที่มีศักยภาพสูง แต่ขาดความฝัน ... จะเป็นลูกจ้างที่นายจ้างต้องการ
ส่วน
คนที่มีความฝัน และมีศักยภาพ เพียงข้อเดียว คือ อ่านคนทะลุ (คนมีศักยภาพ) และใช้คน (คนมีศักยภาพ แต่ขาดความฝัน) เป็น
ศักยภาพของเงิน ที่เริ่มต้นอาจไม่ได้น่าตกใจอะไร...เวลาล่วงเลยไป ... ก็รวยซะแล้ว!!!
(ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน )
Value Speculate Investor
วิเศษสิทธิ์ ทองบาง
10 มีนาคม 2551
|
