เมื่อสัปดาห์ก่อน ราวชวงกลางเดือนมิถุนายน 2552 ผมเองได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมคอร์สชื่อเก๋มากคือ คอร์สปลุกยักษ์ วิทยากรคือ Coach ศิริลักษณ์ ตันศิริ ซึ่งปัจจุบันกำลังโด่งดังมากในแง่ที่เป็นนัก Motivator หรือนักสร้างแรงจูงใจในการทำงานและการใช้ชีวิต และอยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนไม่น้อย และผมเองก็เชื่อว่า ท่านผู้อ่านคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่บ้าง
ไปอบรมมาทั้งทีก็ต้องเอาดีให้ได้ล่ะครับ ผมเองก็ได้เรียนรู้ถึงคำคำนึงคิอ Yes โดย coach ศิริลักษณ์เองก็แนะนำให้ได้เห็นถึงพลังของคำคำสั้น ๆ นี้ ผมจึงอยากจะขอเอามาแชร์
และในบทบาทหนึ่งที่ผมเล่นเป็น HR ที่ทำงานแบบสมัยใหม่ มีหน้าที่รับผิดชอบอันหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้เพื่อพนักงาน เพื่อให้มุ่งสร้างประสิทธิภาพของการทำงาน ผมเองเชื่อว่า คำคำนี้นำอะไรดีดีหลายอย่างมาให้คนทำงานทั้งหลาย ทั้งท่านทั้งผม
ท่านผู้อ่านอาจจะบอกว่า อ้อ!! ก็เคยได้ยินมาบ้าง ในหนังก็มีเรื่อง Mr. Yes Man ที่คุณพี่ Jim Carrey แสดงงัย เนื้อหาขอหนังก็ทำนองกระตุ้นให้เราได้เห็นถึงการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง ด้วยการสร้างทัศนคติแบบ Yes จากภายในตัวเอง และ Yes ก็เป็นหลังที่ช่วยปรับมุมมองด้านลบมาทางด้านบวกได้อย่างมากเลยทีเดียว
Yes เป็นคำที่ทรงพลังต่อการเปลี่ยนความคิดและชีวิตอย่างไร เรามาว่ากันครับ
แต่ผมเองขอบอกไว้ก่อนนะครับว่า ผมไม่ใช่ Motivator อะไรที่คุณผู้อ่านจะต้องมาเชื่อหรอก แต่ผมขอท้าทายให้ทุกท่านเอาไปคิดและทำ ไม่รู้มันได้ผลอย่างไรมาบอกกันบ้างครับ
และอีกอย่างหนึ่งเพื่อเพิ่มพลังให้กับ Yes คุณก็ควรมีมีท่าทางประกอบด้วยเหมือนกัน หลายท่านแนะนำว่า อาจจะใช้ท่ากำมือแน่นแน่น ดึงแขนท่องล้างดึงเข้าหาตัว พร้อมกับพูด Yes เสียงดัง ๆ เวลาที่เราทำอะไรได้ผลเหมือนที่คิดไว้ ทำมันอย่างจริงจังมุ่งมั่น กระฉับกระเฉง เท่านี้ก็จะรู้สึกถึงพลังของความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นจากท่าทางและคำสั้น ๆ ที่เปี่ยมอานุภาพนี้ได้
แต่อย่าไปออกเสียง จังซี่มันต้องถอน...จังซี่มันต้องถอน..น...น นะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนละเรื่อง
ผมเชื่อว่า ทุกท่านจะมีท่าทางดีใจส่วนตัว บางคนตีลังกา บางคนเต้นท่าแปลก ๆ เป็นปลาดุกโดนทุบหัว หรืออะไรก็ตาม เอาให้เหมาะเลยครับ แต่เปล่งเสียงออกมาด้วยว่า Yes หรือ ใช่...เราทำได้
นักจิตวิทยาพฤติกรรมมนุษย์บอกไว้ว่า Yes+ท่าทีที่จริงจัง ช่วยเสริมสร้างแลดึงเอาพลังหลายอย่างในตัวของเราออกมา ทั้งพลังจิตสำนึก จิตใต้สำนึก ความกล้าหาญ ขจัดความหวาดกลัว พลังของความหวังในสิ่งที่ดีดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้แฝงเร้นอยูในจิตใจของเราทั้งหลาย ซึ่งมันมีส่วนอย่างมากในการกระตุ้นการทำงานและการใช้ชีวิตของเรา และแน่นอน มันช่วยขับทัศนคติด้านบวก (+) ออกมามากโขทีเดียว
Yes เป็นพลังที่ปลดปล่อยมุมมองความคิดว่า ทำได้ เป็นไปได้ ออกมา กลับลบล้างทัศนคติ ไม่กล้า กลัว ทำไม่ได้ โอย...มันยาก ซึ่งเป็นทัศนคติของความล้มเหลวหรือคอยขัดขวางความสำเร็จของเราครับ
เมื่อเราได้ตะโกน Yes หรือ โอ...มันใช่ ออกมาดังดัง (ผมแนะนำให้ทำในห้องส่วนตั๊วส่วนตัว) มันช่วยให้อารมณ์ขุ่นมัวลางลงไปได้ครับ นักจิตวิทยาเค้าว่างั้น...
และมันยังช่วยปลดปล่อยความต้องการที่แฝงเร้นในใจออกมา ซึ่งบางทีความต้องการนั้นถูกเก็บกดไว้เพราะความคิด เป็นไปไม่ได้หรอก หรือ รอชาติหน้าไปเถอะ ...อะไรแบบนี้ ซึ่งนานเข้ามันก็จะทำให้เราลังเล ไม่แน่ใจ กลัวและไม่กล้าสารพัด Yes ช่วยให้เราได้ผ่อนคลายแรงปรารถนานั้นได้ครับ
แต่พูดอย่างเดียว แล้วไม่สำรวจดูตัวเอง ไม่ลงมือทำตามฝัน เจออุปสรรคก็ท้อแล้วบอกว่า No Yes แบบนี้ก็ไม่ได้ครับ
Yes
.ฉันทำได้ Yes
ฉันจะทำ Yes
ฉันต้องทำให้ได้ จึงเป็นตัวกระตุ้นและเสริมพลังให้เราเดินตามฝันอย่างไม่ลดละ
พลังของมัน ช่วยลดความอึดอัดที่ฝังลึกบ้าง ไม่ลึกบ้างในใจของเราออกมาได้มากเลยครับ
นักจิตวิทยา รวมทั้ง Motivator อย่าง coach ศิริลักษณ์บอกว่า หากเราคิดจะให้ได้อะไรมา มันก็ต้องคิดเสียก่อนว่ามันจะได้ เราต้องได้มันมาให้ได้ แต่ด้วยวิธีสุจริตนะ ตั้งใจมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ทำให้ได้มา แล้วสุดท้ายมันก็จะได้มา
ผมว่า จะได้มาช้าหรือเร็ว มันก็ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของคุณครับ
Yes มันก็เลยเปรียบเหมือนกับแม่เหล็กชั้นยอดที่คอบดึงดูดเอาพลังที่ดี พลังด้านบวก (+) เข้ามาหาตัวเรา และแน่นอนครับ Yes ช่วยปลูกฝังความคิดดีดี ความคิดทางบวก ไม่ทำให้เราท้อแท้ หงอยเหงา ซึมเซา จิตตก
คิดเสียว่าทุกอย่าง Yes เราทำได้ เราจะทำให้ได้ คิดแต่แบบนี้ เชื่อได้เลยว่า เราอยากจะลงมือทำกิจกรรมการงานทั้งหลายให้เห็นผลมากขึ้น ยกตัวอย่างเรื่องงานนะครับ เราอาจจะรู้อยู่ว่ามันยาก เพราะมันเป็นอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน มันงง !!! ร้อยแปดพันเรื่อง ยิ่งไปคิดว่า ไม่ไหว ทำไม่ได้ มันก็ไม่ได้ทั้งปี ท้อถอย แล้วก็ล้มเลิกไป ไม่เกิดผลงาน แต่ยังงัยมันก็ต้องทำ ลองคิดใหม่สิครับ Yes ฉันต้องทำได้ ทำไม่ได้ไปปรึกษาหัวหน้างานดีกว่า.. มันจะต้องทำได้ Yes ใช่...ฉันจะต้องทำ คิดเสียแบบนี้ ลองดูสิครับมันจะต่างจากคิดแบบแรกหรือเปล่า
และเมื่อมีผลดีเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ประสบความสำเร็จจากงานใหญ่หรืองานเล็ก ๆ แล้วก็ตาม อย่าลืมให้กำลังใจตัวเองด้วยการชื่นชมบ่อย ๆ ครับ เช่น เย...ฉันทำได้ เห็นไหม ฉันก็ทำได้ ดีใจ ดีใจ ใช่ มันดีแล้ว อะไรแบบนี้ พลังของการชื่นชมตัวเอง จะช่วยเพิ่มทัศนคติแบบ Yes ให้มากขึ้นไปอีก
ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ ปรมาจารย์ด้านจิตวิทยาบ้านเรา ท่านให้คำแนะนำให้เราลองใช้ Yes บ่อย ๆ เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีดีกับตัวเรา และชีวิตมากขึ้น
ก็ไม่เสียหายที่จะลองทำจริงมั้ยครับ ได้ผลดีอย่างไร บอกด้วยนะ...
|