การปฏิรูประบบการศึกษาไทยปัจจุบัน
การปฏิรูป หมายถึง หมายถึงการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แก้ไขให้ดีขึ้น หรือหมายถึงการปรับปรุงแก้ไขข้อปฏิบัติที่บกพร่องผิดพลาดที่ผ่านมากฎหรือระเบียบหรือข้อบังคับที่ปฏิบัติมานอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้วยังก่อให้เกิดโทษและความเสียหายแก่ส่วนรวม การแก้ไขดังกล่าวเป็นการแก้ไขทั้งระบบใช้การกระทำภาคปฏิบัติอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอนผ่านความเห็นชอบร่วมกันหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ดีกว่า และเป็นที่ยอมรับได้ในสังคมโดยรวม
การปฏิรูปการศึกษา คือ การปรับเปลี่ยนพัฒนาเพื่อให้การศึกษาสามารถสร้างคนดีให้กับสังคมและเป็นพลังในการพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันกับนานาอารยประเทศบนพื้นฐานของวัฒนธรรมและความเป็นไทย
การศึกษาเป็นกระบวนการที่ช่วยให้คนได้พัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ตลอดชีวิตในประเทศที่พัฒนาแล้วการพัฒนาศักยภาพของคนจะต้องนำหน้าการพัฒนาประเทศในมิติอื่นตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนา เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ ได้ทุ่มเทการลงทุนในการพัฒนาคนในชาติก่อนหน้าที่ประเทศจะเริ่มเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วแล้วทั้งสิ้นประเทศเหล่านี้ได้มีการปฏิรูประบบการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาคนในชาติให้มีความรู้และ ประสบการณ์ โดยให้การศึกษาเป็นตัวนำการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ เพื่อคนในชาติจะได้นำความรู้และประสบการณ์ไปพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองดังที่เรา จะพบว่าประเทศที่พัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศจะมีประชากรที่ได้รับการศึกษาในอัตราที่สูง
การปฏิรูประบบการศึกษาเป็นประเด็นศึกษาที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนน่าจะให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากหากระบบการศึกษาไทยไม่ได้รับการปฏิรูปแม้ว่าเราจะพยายามขยายโอกาสทางการศึกษาออกไปเป็น 9 ปี หรือ 12 ปี ตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันระบุไว้ก็ตามก็จะไม่ได้ช่วยสร้างคนในชาติให้มีความรู้ความสามารถอย่างที่ควรจะเป็นในอดีตเราจะเห็นได้ว่ารัฐบาล และพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งมักจะพิจารณาและจัดอันดับให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงเกรดซีที่ไม่ค่อยมีความสำคัญมากนักเพราะเป็นกระทรวงที่มีผลประโยชน์ค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ กระทรวงแต่ในปัจจุบันรัฐบาลเริ่มให้ความสำคัญกระทรวงศึกษาธิการเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้นำของประเทศยังเคยเข้าไปดำรงตำแหน่งควบเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหวังให้การปฏิรูประบบการศึกษาบังเกิดขึ้นอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม โดยรัฐบาลเห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการจะต้องมีบทบาทสำคัญในการปฏิรูประบบการศึกษาให้ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างคุณภาพให้กับคนหรือประชากรในชาติการปฏิรูประบบการศึกษาด้วยการจัดระบบการศึกษาใหม่ทั้งระบบเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไปเพราะเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศว่าคนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของทุกระบบในโลกคนเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่ากว่าทรัพย์อื่นใดในโลกคนมีคุณค่าในตนเองและสามารถถ่ายทอดคุณค่านั้นเพื่อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์สังคมได้หากคนได้รับการปลูกฝังความรู้ความเข้าใจและการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ผ่านกระบวนการทางการศึกษาเราจะเห็นว่าประเทศที่ระบบการศึกษามีประสิทธิภาพและรัฐบาลประเทศนั้นเห็นคุณค่าการศึกษาอย่างสูงประเทศนั้นก็จะเจริญก้าวหน้าพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วดังที่กล่าวมาแล้วทั้งนี้เพราะประเทศจะมีขุมทรัพย์แห่งสติปัญญาจำนวนมากอยู่ในประเทศของตนตรงกันข้ามกับประเทศที่ระบบการศึกษาด้อยคุณภาพและประชาชนไม่ได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสมผลก็คือประเทศนั้นจะล้าหลังยากจนและแข่งขันหรืออยู่ร่วมกับประเทศอื่นไม่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีดังนั้นประเทศไทยในปัจจุบันจึงตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาอย่างจริงจัง โดยให้คนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติการศึกษาได้ถูกกำหนดเป็นนโยบายระดับชาติที่จะส่งผลต่อความเป็นไปของประเทศในอนาคตดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาจึงต้องเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงคนแต่ละคน เพื่อก่อให้เกิดการใช้ศักยภาพของคนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาตนเอง และการสร้างสังคมนั้น
ระบบการศึกษาของไทยนับตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นการศึกษาของคนไทยสมัยนั้นจะอาศัยวัดเป็นสถานที่อบรมสั่งสอนบุตรหลาน เช่น การสอนหนังสือให้อ่านออกเขียนได้ผู้ชายไทยทุกคนเมื่ออายุครบ 20 ปี ก็จะต้องเข้าสู่เพศบรรพชิต โดยขณะที่บวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดก็จะได้รับการอบรมสั่งสอนในด้านการเขียน การอ่านและวิชาช่างต่างๆ ส่วนสตรีไทยก็จะได้รับการอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับกิริยามารยาท การเย็บปักถักร้อยและงานประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับดอกไม้จากครอบครัวของตน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนในมณฑลต่างๆ โดยมีฆราวาสเป็นครูสอน
ความก้าวหน้าของการปฏิรูประบบการศึกษาของภาครัฐตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเชื่อว่าผลของการปฏิรูปจะทำให้ระบบการศึกษาของไทยมีประสิทธิภาพมากยิงขึ้น ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประชากรไทยมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเช่นกัน แต่ในบรรยากาศของการปฏิรูปดังกล่าว ก็ยังคงมีปัญหาอุปสรรคของการปฏิรูปอยู่บ้างบางประการซึ่งพอสรุปได้ คือ
1.ปัญหาความล่าช้าในกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย โดยเฉพาะการจัดทำกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ในรูปแบบศูนย์การเรียน การจัดการศึกษาโดยครอบครัวตลอดจนร่าง พ.ร.บ. อีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูประบบการศึกษาก็ยังไม่ได้มีการประกาศใช้
2.ปัญหาในด้านการกำหนดนโยบายและแผนกล่าวคือในทางปฏิบัติแต่ละหน่วยงานจะกำหนดนโยบายและแผนเพื่อการปฏิบัติภารกิจของตนเอง โดยยึดถือ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติหรือร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นกรอบนโยบายกว้างๆ ในการดำเนินการถึงแม้จะยังไม่มีการประกาศใช้แต่ในบางเรื่องจำเป็นต้องมีนโยบายเพื่อเป็นกรอบและแนวทางที่ชัดเจนและมีเอกภาพในการดำเนินการแต่ยังไม่มีแนวทาง ให้ดำเนินการที่ชัดเจน จึงเกิดความล่าช้าในการปฏิรูปในบางเรื่องให้เป็นรูปธรรม
3.ปัญหาในด้านการนำนโยบายและแผนไปสู่การปฏิบัติ เช่น การจัดการศึกษาเฉพาะทาง มีความก้าวหน้าในการนำนโยบายและแผนไปสู่การปฏิบัติค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างขั้นเตรียมการ
ปัญหาอุปสรรคที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเชื่อว่าภาครัฐก็คงทราบและตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดีและหาทางแก้ไขเพื่อนำไปสู่การปฏิรูประบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นการปฏิรูประบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพก็จะสร้างคุณภาพให้กับประชากรอย่างแน่นอนตามที่กล่าวมาแล้วในตอนต้น แต่อย่างไรก็ตาม การปฏิรูประบบการศึกษาก็ควรที่จะต้องปฏิรูปคนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปด้วยหมายถึง นอกจากเราจะปฏิรูปคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงต่อระบบการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ ผู้บริหาร การศึกษา ผู้เรียน รวมไปถึงบิดามารดา ผู้ปกครองแล้ว เห็นว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางอ้อมต่อระบบการศึกษาอีกด้วยอันได้แก่ สื่อมวลชน นักการเมือง ผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายผู้นำองค์กร ผู้นำชุมชน นักเขียน นักร้อง นักแสดง ศิลปิน ผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งการปฏิรูปกลุ่มบุคคลเหล่านี้ น่าจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน เนื่องจากคนทุกกลุ่มในสังคมจะต้องสามารถมีส่วนร่วม ถ่ายทอดอิทธิพล อุดมการณ์ทางการศึกษาตามแนวทางที่ต้องการปฏิรูปให้กับเด็กๆ และเยาวชนของชาติอันจะเป็นการช่วยให้การพัฒนาการทางการศึกษาเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีพลังมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องปฏิรูปกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยหากเราต้องการให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นไปได้อย่างครอบคลุมและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน เพื่อคุณภาพของประชากรในชาติ