ซึ่งคิวนี้ ‘ยอดี้’ เต็มใจนำเสนอ ย้อนอดีตนักเตะที่เคยยิงกระจายจนได้รับการขนานนามว่าเป็นสุโก้ย!!! ‘มือปืน’ บนพื้นพื้นสนามลูกหนังขึ้นแท่นตำแหน่งดาวซัลโว ในไทยลีกมาแล้ว ทีนี้มาดูกันว่าไทยลีกที่ก่อกำเนิดมาได้ 14 ครั้ง ที่ผ่านมาจะมีใครบ้าง ตามมาเลยครับ…

ปี 2540 วรวุฒิ ศรีมะฆะ บีอีซี เทโรศาสน 17 ประตู

‘สูง โหม่งเก่ง ตัวใหญ่ ใจถึง’ คือเอกลักษณ์การทำประตูของชายผู้นี้ วรวุฒิ (ในชุดเทโรฯเบอร์ 14) จนกลายเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน คุมทัพอยู่ สงขลา ขับเคี่ยวอยู่ในศึกดิวิชั่น 1  ฤดูกาล 2011

ปี 2541 รณชัย สยมชัย การท่าเรือฯ 23 ประตู

ไม่เคยฟอร์มการเล่น แต่ก็ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังมากที่เดียวกับ กองหน้าดาวยิงหน้าติดหนวดรายนี้ เมื่อกดสกอร์ไปเฉียดตัวเลขวัยเบญจเพส

ปี 2542 สุธี สุขสมกิจ ธ.กสิกรไทย 13 ประตู , 2543 สุธี สุขสมกิจ ธ.กสิกรไทย 16 ประตู

แจ้งเกิดขึ้นมากับต้นสังกัดนี้ ในฐานะนักเตะชุดเยาวชนพานาโซนิค  จนมีชื่อติดทำเนียบแข้งเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ทีมชาติไทย ที่ประเทศอียิปต์ ด้วยลีลาสปีดต้นที่จัดจ้าน ปานจรวด และยิงประตุคมกริบดุจปลายมีดอันแหลมคม ไม่แปลกใจทำไมถึงคว้าตำแหน่งเบอร์หนึ่งในตำแหน่งผู้ยิง2สมัยติดต่อกัน

ปี 2544/45 วรวุฒิ ศรีมะฆะ บีอีซี เทโรศาสน 12 ประตู, ปิติพงษ์ กุลดิลก  การท่าเรือฯ  12 ประตู

ถือเป็นซีซั่นแรกที่มีดาวซัลโวพร้อมกันถึง 2 คน มีวรวุฒ ศรีมะฆะ ที่คว้าตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง ส่วนอีกหนึ่งเป็นในรายของ ปิติพงษ์ กุลดิลก จากการท่าเรือฯ ที่คว้าไปนอนกอด สำหรับ ปิติพงษ์ ฟอร์มถล่มประตูปีนี้พีคสุดขีดจนก้าวขึ้นไปสู่รั้วทีมชาติไทย ชุดคิงส์คัพ

ปี 2545/46 ศรายุทธ ชัยคำดี การท่าเรือฯ 12 ประตู

ด้วยฟอร์มถล่มประตู ที่มีสัญญาณการล่าตาข่ายที่เฉียบขาดและอันตรายไว้ใจได้เสมอในกรอบเขตโทษ เป็นคุณสมบัติสำคัญ ทำให้ ‘โจ้5หลา’ ศรายุทธ กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลถิ่นคลองเตยอาร์มี ในชั่วพริบตา

ปี 2546/47 วิมล จันทร์คำ โอสถสภา 15 ประตู

วิมล จันทร์คำ สร้างชื่อเป็นที่รู้จักกับแฟนบอลด้วยการลงเล่นกับชุดนักเรียนไทย ก่อนจะมาซัดกระจายกับต้นสังกัดใจเกินร้อย ‘พลังเอ็ม’ โอสถสภาฯ ก่อนที่ชีวิตจะผกผันย้ายไปเล่นสวมบทบาทโค้ชแอนด์เพลเยอร์กับทีม นครปฐม ก่อนแขวนสตั๊ดมาทำหน้าที่โค้ชเต็มตัว

ปี 2547/48 ศุภกิจ จินะใจ การไฟฟ้าฯ 10 ประตู , ศรายุทธ ชัยคำดี การท่าเรือฯ 10 ประตู

เป็นฤดูกาล ที่ตำแหน่งดาวยิงทำประตูกันได้น้อยที่สุด ซึ่งรางวัลตกเป็นของศุภกิจ(กางแขน) ศูนย์หน้าร่างป้อมจากภาคเหนือของการไฟฟ้าฯ ที่มีทีเด็ดถล่มประตูโดยอาศัยความเร็วเป็นอาวุธ และ ศรายุทธ ซิวไปครองเป็นครั้งที่สอง

ปี 2549 พิพัฒน์ ต้นกันยา บีอีซี เทโรศาสน 12 ประตู

พิพัฒน์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกองหน้าความเร็วสูงคนหนึ่งของทีมชาติไทย ที่หาตัวจับยากมั๊กๆ ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน ครบเครื่อง เปี่ยมด้วยคุณสมบัติศูนย์หน้าที่ดีพึงมีติดตัว การตะบันแหลกกับต้นสังกัดใหญ่อย่าง เทโรฯ น่าจะการันตีคุณภาพหัวหอกรายนี้ได้อย่างดี ปัจจุบันปี 2011 เล่นอยู่กับโอสถสภาฯเอ็ม150 สระบุรี

ปี 2550 เนย์ ฟาเบียโน โอลิเวียรา พนักงานยาสูบ 18 ประตู

‘โป๊งเหน่งอันตราย’ คือฉายาของยอดดาวยิงร่างอวบชาวบราซิลเลี่ยนรายนี้ที่ปัจจุบัน ล่าสกรอ์อยู่สโมสรชลบุรี ด้วยลีลายิงประตูสไตล์แซมบ้าขนานแท้ เฉียบขาดทั้งลูกเล่นภาคพื้นดินและกลางอากาศ เรียกได้ว่ายิงดาวกระจาย จนมีส่วนทำให้ ‘พนักงานยาสูบ’ หักปากกาเซียน ก้าวผงาดเป็นม้ามืดคว้าแชมป์ไทยลีกสำเร็จในปีนั้น

ปี 2551อานนท์ สังข์สระน้อย บีอีซี เทโรศาสน 20 ประตู ,  2552 อานนท์ สังข์สระน้อย  บีอีซี เทโรศาสน  18 ประตู

ติดทำเนียบยอดดาวยิงเบอร์ต้นๆ ของไทยไปอย่างไร้ข้อครหา กับดาวเตะเลือดโคราชรายนี้ถล่มประตูแบบไม่เกรงใจกับสโมสรเซ็นทรัลฯ จากฟอร์มพีคสุดๆ ทำให้ ‘มังกรไฟ’ ไปดึงตัวมาและ อานนท์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยิงกระจายอีกจนครองดาวยิงสุงสุดสองสมัยเป็นติดต่อกันต่อจาก สุธี สุขสมกิจ ปัจจุบัน เนื่อหอมจัดโยกไปล่าสกอร์กับ เมืองทองฯยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 2 สมัย

ปี 2553  ลูโดวิค ทาคาม  พัทยา ยูไนเต็ด 17 ประตู

เจ้าของฉายา ‘คิงคอง’ แจ้งเกิดสุดๆในฤดูกาลที่ผ่านมา คว้ามงกุฏมาครองด้วยคอนเซ็ปท์ หนา, ถึก, บึกบึน ไม่กลัวกองหลังหน้าไหน ยิงประตูด้วยความดุดันซัลโวไม่ยั้ง ปาดหน้าคว้าตำแหน่งไปเชยชมชนิดกองหน้าชาวไทย มองตาปริบๆๆ

หมายเหตุ… ปี พ.ศ. 2539  อัมพร อำพันสุวรรณ กองหน้าสุดคลาสิค องค์การโทรศัพท์ คว้าไปครองที่จำนวน 21 ประตู และทั้งหมดก็คือ ยอดดาวยิงไทยลีกช่วง 14 ฤดูกาล ที่ผ่านมา ก็ต้องมาลุ้นกันว่าไทยลีก 15 ใครจะคว้าตำแหน่งดาวยิงสูงสุดมาครอง ซึ่ง ‘ยอดี้’ บอกตามตรงเดาไม่ถูกจริงๆครับ.

โชคดีมีตังค์ใช้แฟนบอลไทยทุกคน