พลิกฟื้นนาร้างคืนนาดี
ภาพจาก : http://www.arjarnpoo.com
ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำ ให้เกษตรกรไม่สามารถ
ปลูกข้าวได้อย่างเต็ม ที่ เกษตรกรจำนวนมากได้ปล่อยที่นาให้ รกร้างว่างเปล่าและหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน ส่งผลให้มีการสั่งซื้อข้าวจากจังหวัดอื่นมาบริโภคปีละไม่ต่ำกว่า
๒,๐๐๐บาท
กระทรวงเกษตรฯ จึงได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูนาร้าง เพื่อการปลูกข้าว เป็นการบูรณาการ
ระหว่างกรมการข้าว กรมพัฒนาที่ดิน และกรมส่งเสริมการเกษตร โดยกรมพัฒนาที่ดินรับหน้าที่
ปรับสภาพพื้นที่นาร้างให้มีความเหมาะสมสามารถทำการปลูกข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกรมการข้าวให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวจำนวน ๑๕ กก.ต่อไร่ และปุ๋ยเคมี ๒๐ กก.ต่อไร่
ให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ วันพุธ ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐.๐๐ น
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แม้ว่ากระทรวงเกษตรฯจะพยายามดำเนิน
โครงการหลายๆ โครงการฯ ปัญหาต่างๆ ก็ไม่หมดไปจากชาวนา ปัญหาบางอย่างอาจ
เกิดจากธรรมชาติปัญหาบางอย่างอาจเป็นปัญหาเล็กๆ แต่ขยายวงและซับซ้อนขึ้นเพราะปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ ในอดีตแม้จะมีกวีหลายท่านที่สะท้อนปัญหานั้นๆ
ให้ภาครัฐและผู้คนได้พบเห็น ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวคือ พลิกฟื้น..ชีวิตชาวนา พัฒนาอาชีพ
ดั้งเดิมของคนไทย เมื่อไรที่บ้านเมืองสงบ ทุกคนมีความสุข โปรดอย่าลืมว่า "ความทุกข์
ของชาวนาก็ยังไม่หมดไป
ประเด็นการศึกษา งานพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เรื่อง ทุกข์ของชาวนาในบทกวี
ภาพจาก : http://www.photoontour.com
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
เรื่องทุกข์ของชาวนาในบทกวี
๑. ความหมายของชื่อเรื่อง
"ทุกข์ของชาวนาในบทกวี" หมายถึง ความทุกข์ของชาวที่ปรากฏในบทกวี
ความทุกข์ คือความลำบาก เดือดร้อน ทุกข์ยาก
ภาพจาก : http://www.suriyothai.ac.th/files
๒. ผู้นิพนธ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
๓. ลักษณะของคำประพันธ์ เรียงความ
๔. ที่มาของเรื่อง นำมาจากหนังสือมณีพลอยร้อยแสง หมวดชวนคิดพิจิตรภาษา
นักศึกษาคณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จัดพิมพ์ในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ ๓ รอบ
๕. จุดมุ่งหมายในการแต่ง แสดงแนวพระราชดำริเกี่ยวกับบทกวีของไทย และบทกวีของจีน
ที่กล่าวถึงความทุกข์ยากของชาวนา
๖. เนื้อเรื่อง/สาระสำคัญ
ตอนแรก แสดงถึงความเข้าพระทัยปัญหาต่าง ๆ ของชาวนา เช่น ปัจจัยในการผลิต
การพยุง หรือประกันราคาข้าว และการรักษาความยุติธรรมทั้งปวง ซึ่งคนในสังคมไม่เคย
ช่วยเหลือชาวนาได้และชาวนาก็ไม่มีโอกาสหรือมีสิทธิ์ที่จะอุทรณ์กับใครได้
นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นพระเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้นของพระองค์ที่มีต่อชาวนาอีกด้วย
ภาพจาก : http://www.oknation.net/blog
ตอนที่สอง ทรงแปลบทกวีจีน ของหลี่เชินเป็นภาษาไทย
ซึ่งทำให้ทราบถึงสภาพชีวิตของชาวนาจีนกับชาวนาไทยว่า มิได้มีความแตกต่างกันมากนัก
ตอนท้ายเรื่อง พระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่า ความทุกข์ของชาวนาที่เป็นปัญหาในอดีต
ก็ยังคงเป็นปัญหาสะเทือนใจต่อคนในยุคคอมพิวเตอร์
๗. ลักษณะของบทกวีไทยและบทกวีจีน
บทกวีของไทย เป็นของ จิตร ภูมิศักดิ์
บทกวีของจีน เป็นของ หลี่เชิน
ความเหมือนกัน เนื้อหาของบทกวีทั้งสอง นำเสนอเรื่องราวความทุกข์ยากของชาวนา
ความแตกต่างกัน วิธีการนำเสนอของกวีต่างกันคือ
กวีไทย นำเสนอเสมือนนำชาวนามาบรรยายเรื่องราวของตนให้ผู้อื่นฟัง
กวีจีน นำเสนอ เหมือนจิตรกรวาดภาพให้คนชม
๘. ข้อคิดจากเรื่อง
เราควรรู้คุณค่าของข้าวที่รับประทานกันอยู่ทุกวันว่า กว่าจะได้เมล็ดข้าวมาแต่ละเมล็ด
ล้วนเกิดจากความเหนื่อยยากของชาวนา เพราะฉะนั้นไม่ควรกินทิ้งกินขว้างให้เสียประโยชน์
ความคิดสร้างสรรค์แบ่งปันหลังเรียน
ครูถาม....นักเรียนตอบ.....ปลุกสมองให้ออกกำลังกาย(แน่จริงห้ามเปิดหนังสือ)
๑. งานนิพนธ์ของใคร เรื่องทุกข์ของชาวนาฯ ......................................................................
๒. พิมพ์เผยแพร่เมื่อพรรษาที่เท่าไร ......................................................................
๓. จงบอกจุดมุ่งหมายของการนิพนธ์ ......................................................................
๔. อย่าวกวน ชื่อกวีจีน...รีบขานไข ......................................................................
๕. และอย่าลืมบอกชื่อ...ของกวีไทย ......................................................................
๖. ชื่อบทกวี...ที่ยิ่งใหญ่ของจีน รีบบอกมา ...................................................................
๗. บอกข้อเหมือน...ของบทกวีทั้งสองนั้น ..................................................................
๘. บอกข้อต่างกัน..ของกวีทั้งสองอย่างชักช้า .............................................................
๙. กวีไทยนำเสนออย่างไรรีบบอกมา ......................................................................
๑๐ กวีจีนนั้นหนานำเสนอ...เป็นแบบใด .....................................................................
กิจกรรมเสนอแนะ
ประกวดงานเขียน เรียงความ, และงานประพันธ์ เรื่อง "ชาวนา บุคคลที่น่ายกย่อง"
นำผลงานติดป้ายนิเทศ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จัดเวทีให้เล่าแนวคิดหรือมุมมอง
ที่มีต่อชาวนา
กิจกรรมบูรณาการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาพระพุทธศาสนา เรื่อง คุณธรรมของชาวนา
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ วิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง การแปรรูปผลิตที่มาจากข้าว
กลุ่มสาระการเรียนรู้เกษตร เรื่อง กรรมวิธีในการปลูกขาวหอมมะลิ(พันธุ์ข้าวพื้นบ้านของประโคนชัย)
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ความปลอดภัยในการใช้สารเคมีในนาข้าว
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ คำศัพท์เกี่ยวกับชาวนา
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง การดูแลสุขภาพของชาวนา