ช่วงนี้น้องๆหลายคนคงยังสับสน และยังงุงงง กับตัวเองว่า อยากจะเรียนแผนการเรียนไหน คณะอะไร หรือจบไปแล้วจะทำงานอะไร...ซึ่งวันนี้ พี่ลาเต้ ก็มีบทความดีที่ได้อ่านเจอเกี่ยวกับ 6 อาชีพที่หลายๆคนใฝ่ฝัน มาฝากน้องๆเผื่ออ่านไว้เป็นแนวทางครับ
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อ 6 อาชีพในฝันของคนยุคนี้ ในงาน เก่งภาษากับเอไอเอสณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า โดยมีผู้ที่อยู่ในอาชีพในฝันทั้ง 6 อาชีพ ได้แก่ นักการฑูต นักเรียนแพทย์ ครูสอนภาษา ล่ามภาษา มัคคุเทศก์ และนักบริหาร มาร่วมเปิดใจถึงความสำคัญทักษะด้านภาษาต่างประเทศ ที่เป็นส่วนสำคัญผลักดันให้พวกเขาเข้าสู่อาชีพในฝันได้ในที่สุด
เริ่มด้วยอาชีพแรก เจ้าหน้าที่การทูต เต๋า พิมพิดา รวิรัฐ เจ้าหน้าที่การทูต กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เปิดใจการหักมุมชีวิต พิชิตฝันได้สำเร็จว่า เธอใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าหน้าที่การฑูตมาตั้งแต่เด็ก ๆ รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่เท่ และน่าสนใจมาก ๆ แต่ติดปัญหาที่ว่า เต๋า ไม่เก่งภาษาอังกฤษ รู้สึกว่าการเรียนภาษาอังกฤษนั้นยากมาก จนคิดว่าตัวเองคงไปได้ไม่ไกลกว่านี้ วันหนึ่งได้ไปเรียนภาษากับครูที่ทำให้ภาษาอังกฤษกลายเป็นเรื่องง่าย จนพลิกผลการเรียนภาษาอังกฤษของ เต๋า ไปอย่างสิ้นเชิงและทำให้เราเกิดความมุ่งมั่นที่จะไปเรียนต่อถึงประเทศอังกฤษ จนในที่สุดก็จบกฏหมายจาก Oxford และได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การฑูตอย่างที่เคยฝันไว้ ด้านปองพล ศิริลักษณมานนท์ นิสิตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดใจว่า เขาคิดว่าภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษมีความสำคัญกับผู้ที่สนใจอยากเรียนแพทย์ อยากเป็นหมอ เพราะหนังสือทางการแพทย์ หรือศัพท์วิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ อาชีพหมอจำเป็นต้องมีความรู้รอบโดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคที่มีหลายพันธุ์ และยาประเภทใหม่ ๆ ที่มีการค้นพบ
ผมคิดว่าอาชีพหมอเป็นการทำงานที่ท้าทาย ได้พบปะผู้คนเยอะ และได้ช่วยคนซึ่งถือว่าเป็นการทำประโยชน์ไปในตัว
|
นอกจากนี้ครูสอนภาษาอังกฤษชื่อดังของวัยรุ่น แนน-อริสรา ธนาปกิจ ก็ได้มาร่วมเล่าถึงเสน่ห์ของ อาชีพครู ว่า เสน่ห์ของอาชีพครู คือเหมือนได้สร้างกุศลให้กับตัวเองในทุกวัน ผู้ที่อยากเป็นครูต้องมีจิตวิญญาณความเป็นครู อดทน เอาใจใส่ คอยหาสิ่งกระตุ้น หรือหาวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ เสมอ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือ การสร้างรูปแบบการเรียนภาษาอังกฤษด้วยเพลงที่แต่งขึ้นในสถาบัน เพื่อให้เด็กจำได้เร็ว ไม่ลืม และสนุกไปกับการเรียนด้วย ใครอยากเก่งภาษาเริ่มด้วยวิธีการง่าย ๆ ก่อนก็ยังทำได้ เช่น สร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวเองให้เป็นภาษาอังกฤษ เช่น อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ฟังรายการภาษาอังกฤษ chat เป็นภาษาอังกฤษ ข้อสำคัญคือต้องไม่อายที่จะใช้ภาษาค่ะ ส่วน ล่ามภาษาญี่ปุ่น อมรินทร์ เจริญแสงสุริยา เล่าว่า ผู้สนใจเป็นล่าม ต้องมีความสามารถในการใช้ภาษาสูงมาก เนื่องจากต้องสื่อสารข้อความระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ตรงประเด็น คนทำอาชีพนี้ต้องเข้าใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาด้วย ถ้ามีโอกาสควรลองไปใช้ชีวิตในประเทศนั้นด้วย ในเมืองไทยมีความต้องการล่ามภาษาญี่ปุ่นสูงมาก จึงไม่ต้องกลัวตกงาน แถมรายได้ของอาชีพล่ามจะสูงกว่าผู้จบมาในรุ่นเดียวกัน ยิ่งถ้าเราเป็นคนที่มีความสามารถไม่ต้องกลัวจะไม่มีใครรับ มีแต่คนจะรีบคว้าตัวไว้ อีกหนึ่งอาชีพฮิตในใจคนรักการท่องเที่ยวก็คือ มัคคุเทศก์ หรือไกด์ โดยอำไพ คุณากรธนัส ไกด์นำเที่ยวภาษาจีน เปิดเผยว่าคนที่จะเป็นไกด์ต้องมีใจรักในการบริการ ชอบท่องเที่ยว และศึกษาให้รู้จริงในสถานที่นั้นๆ อีกอย่างคือต้องสามารถใช้ภาษาได้ถูกต้องทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อสร้างความเข้าใจและช่วยเหลือผู้ร่วมทริปได้ สำหรับการฝึกภาษาแค่หัดสังเกต และไม่อายที่จะใช้ภาษา รวมทั้งไปเรียนภาษาเพิ่มเติมกับสถาบันต่าง ๆ ก็จะช่วยให้มาก ส่วนเนตรปรียา ชุมไชโย หรือ ครูเคท ย้ำให้คนไทยเร่งสปีดความเก่งด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ โดยบอกว่ามีข้อมูลว่าคนไทยมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษน้อยที่สุดในประเทศในทวีปเอเชีย โลกเรามันแคบแล้ว สามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา เพียงแค่คนไทยชอบปฏิเสธไว้ก่อนว่ามันยาก นอกจากนี้องค์ความรู้ทั้งหมดที่อยู่บนโลกนี้ 80% มันเป็นในรูปภาษาอังกฤษค่ะ สุดท้าย นักบริหารของ เอไอเอส วิลาสินี พุทธิการันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารลูกค้าและการบริการ เอไอเอส กล่าวว่าใครที่รู้ภาษามากกว่าคนอื่นย่อมได้เปรียบไม่เพียงแค่เรื่องของการทำงาน แต่ยังรวมไปถึงโอกาสที่จะมีสังคมที่กว้างขึ้น ได้เรียนรู้ รู้จักวัฒนธรรมของชาติอื่นๆ ตอนนี้โลกเราเป็น Globalization แล้ว ภาษาจึงสำคัญมาก ๆ รู้มากก็ได้เปรียบคนอื่น |