การก้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแห่งปัญญาและการเรียนรู้นั้น ทรัพยากรมนุษย์จัดได้ว่าเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญมาก ยิ่งไปกว่าเทคโนโลยีทั้งหลายที่ใช้กันอยู่ ในการสร้างคนนั้น จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานและต่อเนื่อง ซึ่งสามารถดำเนินการได้ โดยความร่วมมือในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการสร้างสภาวะการเรียนที่เปิดกว้างให้กับผู้เรียนในทุกระดับมีโอกาสที่จะเรียนรู้ได้ ช่วยสนับสนุนให้คนสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในการสรรหาบุคคลที่มีความสามารถเพื่อให้การพัฒนาฝึกฝนเป็นพิเศษสำหรับการผลิตกำลังคนที่มีประสิทธิภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว วิธีหนึ่งคือ กิจกรรมนอกหลักสูตรต่างๆ ซึ่งนับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาสังคมไทย ไปสู่สังคมแห่งปัญญาและการเรียนรู้
หน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องเน้นผลการทำงานทั้งในส่วนของผลผลิต และ
ส่วนของการบริการ เพราะฉะนั้นหน่วยงานต่าง ๆ จึงต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องมีการประเมิน และวิเคราะห์กระบวนการให้บริการเพื่อหาแนวทางในการปรับปรุง โดยหัวใจสำคัญคือ การเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปรับปรุงงานนั้น ๆ เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งการสร้างการมีส่วนร่วมนี้ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความเต็มใจที่จะพัฒนาและปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากจะส่งผลดีกับตัวผู้ปฏิบัติงานเอง ทั้งในเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว และได้ผลงานที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ ผู้บริหารเองก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการด้วย เนื่องจากเป็นผู้กำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของหน่วยงาน และในบางครั้ง อาจจะต้องอาศัยอำนาจ หรือคำสั่งของผู้บริหาร เพื่อกระตุ้นให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานเพื่อให้เกิดการบริการที่มีคุณภาพ ในอดีตนั้น การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐจะเน้นที่เรื่องของ คน โดยการทำให้แต่ละคนทำงานได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ด้วยการมอบหมายผู้รับผิดชอบเป็นงาน ๆ โดยให้รับผิดชอบเฉพาะอย่าง เพื่อให้แต่ละคนได้ทุ่มเทและใช้เวลาทำงานที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การมอบหมายให้รับผิดชอบเฉพาะอย่างนี้จะเกิดปัญหาในเวลาที่ผู้รับผิดชอบงานนั้น ๆ ไม่อยู่ เนื่องจากบุคลากรไม่สามารถทำงานแทนกันได้ เพราะแต่ละคนก็จะรู้แต่งานที่ตนรับผิดชอบอยู่เท่านั้น
ในปัจจุบัน การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้หันมาให้ความสำคัญกับ
กระบวนงาน (Process) มากขึ้น โดยการมองภาพรวม และปรับปรุงทั้งกระบวนงานให้ดีขึ้น รวมทั้งมีการพยายามรักษาคุณภาพการทำงานที่ดีอยู่แล้วให้คงอยู่และดียิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยการนำระบบประกันคุณภาพมาใช้ในการทำงานและแนวคิดที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานก็คือ จะเน้นที่กระบวนการ และ ตัวองค์กร ซึ่งหมายถึงทุก ๆ คนในองค์กร โดยการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนงาน และการพัฒนาบุคลากร และเน้นการมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์กร ในการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งการสร้างความเป็นผู้นำ และผู้พัฒนาในองค์กร เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น องค์กรจะประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานหรือไม่ เพียงไร ปัจจัยหนึ่งซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งก็คือบุคลากร หากมีการพัฒนาความรู้ ความคิดรวมทั้งการกระตุ้นให้เกิดความคิดในการพัฒนา สร้างสรรค์พัฒนาวิธีการทำงานแบบใหม่ ๆ ตลอดจนสามารถปรับ เปลี่ยนให้เข้ากับสภาพการทำงานในยุคปัจจุบันได้ ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบขององค์กร เพราะการดำเนินงานขององค์กร จะบรรลุวัตถุประสงค์และเจริญก้าวหน้าเป็นที่ยอมรับของสังคมได้นั้น บุคลากรในองค์กรเป็นผู้ที่จะช่วยผลักดันและพัฒนาองค์กรไปสู่ความสำเร็จนั้นได้ บุคลากรเป็นหนึ่งในปัจจัยทางการบริหารและเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุดในองค์กร ทั้งนี้เพราะบุคลากรจะเป็นผู้ผลักดันให้องค์การสามารถดำเนินภารกิจต่าง ๆ ให้ลุล่วงไปได้ และเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาองค์การในทุก ๆ ด้าน ดังนั้นการส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ ความสามารถ ทักษะและศักยภาพ ในการปฏิบัติงานสูงขึ้น ตลอดจนมีทัศนคติที่ดีต่อองค์กรหรือต่อor)คนที่มีประสิทธิภาพสูง มหาวิทยาลัย จะทำให้มหาวิทยาลัยเจริญก้าวหน้า และเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากเหตุผลดังกล่าวจึงจำเป็นที่ต้องมีการพัฒนาบุคลากร ทั้งนี้เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีบุคลากรที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น สามารถผลิตผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัย สังคม และประเทศชาติ นอกจากนี้เป็นการพัฒนาและเตรียมความพร้อมทุกด้านของบุคลากร ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต บุคลากรจะต้องปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลต่อองค์กร ด้วยการปรับปรุงแก้ไข เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติงานของตนเองและขององค์กรอยู่เสมอ การพัฒนาบุคลากร. ---------------------------------------------------------------
---
การสร้างบุคลากรใหม่เพื่อเข้าทำงาน โดยเฉพาะบุคลากรในสถานศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือเรียกว่าเป็นการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ให้แก่บุคลากรในการปฏิบัติงาน สามารถทำได้ตั้งแต่การปฐมนิเทศบุคลากรใหม่เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย และเรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อการปรับตัว ต่อการปฏิบัติงาน รวมทั้งรู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเองที่มีต่อหน่วยงาน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข รวมทั้งการปลูกฝังทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องให้แก่บุคลากรเพื่อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน จากนั้นก็จัดการส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยให้มีความรู้ความสามารถที่จะปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เช่น ส่งเสริมทักษะการบริหารและจัดการด้านต่าง ๆ ที่สำคัญและจำเป็น เพื่อช่วยสร้างความพร้อมให้สามารถจัดการด้านต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พัฒนาให้มีความทันสมัยต่อเหตุการณ์ปัจจุบันและอนาคต เพื่อสร้างศักยภาพให้กับผู้บริหารทุกสายงาน ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย คณะ สถาบัน ภาควิชา หรือการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพแก่บุคลากรสายผู้สอนและสายสนับสนุน เช่น การอบรมภาษาอังกฤษ อบรมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ทักษะทางการสอน เทคนิคการถ่ายทอด เทคนิคการทำงานเป็นทีม หรือหลักสูตรอื่น ๆ ตามความจำเป็นและสถานการณ์ ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาหลักสูตรต่าง ๆ ด้านการพัฒนาบุคลากรมากขึ้น องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต่างเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร ในการที่จะพัฒนาสร้างสรรค์ทีมงานบุคลากรของตนเองเพื่อให้บุคลากรมีการปรับปรุง พัฒนาตนเองและองค์กร พัฒนาให้บุคลากรมองภาพรวมของงานได้ เกิดวิสัยทัศน์ในการทำงาน ตระหนักถึงความสำคัญของงาน สามารถมองเห็นจุดบกพร่องของตนเอง ของงาน ขององค์กร เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข และแนวทางพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมาย ฝึกให้บุคลากรรู้จักตัดสินใจและแก้ปัญหาในการทำงานได้ มีทักษะในการทำงาน มีทัศนคติที่ดีต่องานที่รับผิดชอบ ทัศนคติที่ดีต่อองค์กร มีทักษะในการสื่อสาร มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ และที่สำคัญเมื่อผ่านการอบรมหรือผ่านหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรไปแล้ว ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปใช้พัฒนาการทำงานของตนเองได้จริง ๆ
แต่ทั้งนี้องค์กรจำเป็นต้องวิเคราะห์ความต้องการในการพัฒนาโดยพิจารณาลักษณะงาน จึงจะจัดการพัฒนาบุคลากรในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง การฝึกอบรม ประชุมสัมมนา การศึกษาดูงาน หรือการลาศึกษาต่อ และต้องมีการประเมินติดตามผลการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อรับทราบข้อบกพร่องในการพัฒนามาเป็นข้อมูลในการนำมาปรับปรุงจัดการพัฒนาบุคลากรที่เหมาะสมต่อไป หากทำได้อย่างนี้แล้ว มหาวิทยาลัยก็จะมี ทรัพยากรบุคคล ที่มีคุณภาพและศักยภาพที่จะช่วยเสริมสร้างและสนับสนุนในการดำเนินภารกิจต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น