|
ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
รู้เขา รู้เรา สมัครงานร้อยครั้ง ต้อง "ได้" (สักครั้ง)
เขียนโดย Wonder Man
|
|
Rated: 
by 0 users |
|
|
|
|
|
|
บทความทั่วไป
ผู้ที่กำลังเข้าส่ตลาดแรงงาน หรือผู้ที่กำลังสำเร็จการศึกษาต้องไม่เลือกงาน ขณะเดียวกันต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงจากภาวะเศรษฐกิจด้วย และไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร งานภาคราชการหรือเอกชนจะมีรองรับมากน้อยแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีผลต่อการได้งานของคนหางานเห็นจะเป็น "ความพร้อม" โดยแต่ละองค์กรที่สรรหาบุคลากรเข้าร่วมงานนั้น ให้มุมมองในเรื่องนี้แตกต่างกันออกไป
สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอย่างเอไอเอส คุณทิพวรรณ ศิริคูณ Human Resource Service Manager ประจำบริษัท บอกว่าความ พร้อมในการเข้าส่ตลาดแรงงานของแต่ละบุคคลนอกจากคุณวุฒิแล้ว บริษัทยังได้ให้ความสำคัญกับแบบทดสอบเชิงจิตวิทยาในการประเมินตัว ตนผู้สมัครด้วย "ในแบบประเมินตัวตน จะมีคำถามที่ผู้สมัครตอบกลับมาแล้วจะบอกว่า บุคคลนั้นมีความอดทน มีความคิดเชิงบวก และซื่อสัตย์หรือไม่"
การประเมินความพร้อมข้างต้นเป็นเพียงด้านหนึ่งของการทดสอบ แต่ก่อนจะมาถึงขั้นตอนนี้ ผู้สมัครต้องเลือกช่องทางการสมัครงานกับเอ ไอเอส ซึ่งมีทั้งผ่านทางเว็บไซต์ ของบริษัท การเข้ามากรอกใบสมัคร การสมัครทางจดหมาย และขณะนี้มีเรื่องของโมบายไลฟ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่อง ทางในการหางานผ่านมือถือ ทั้งนี้คุณทิพวรรณ อธิบายวิธีสรรหาว่า เบื้องต้นจะพิจารณาจากสถาบันที่ผู้สมัครจบมา กล่าวคือหากเป็นสถาบันที่ต้องเอ็นทรานซ์เข้าก็จะกำหนด เกรดระดับ 2.5 แต่ถ้าเป็นสถาบันระบบเปิดก็กำหนดเกรดที่ 3.0 จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกต่อไป ส่วนที่มีบางบริษัทพิจารณาเรื่องโหงวเฮ้งด้วยนั้น ทางเอไอเอสไม่ได้พิจารณาในส่วนนี้ แต่จะพิจารณาจากแบบประเมินตามที่กล่าวไว้ข้างต้น อย่างไรเสีย เธอแสดงความเป็นห่วงคนที่จบใหม่และเพิ่งก้าวสู่ตลาดงานเป็นครั้งแรกว่า การกรอกใบสมัครงาน ขอให้มีความละเอียดรอบคอบ อย่าขีดฆ่า หรือทำให้สกปรก เพราะแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่มีความสำคัญมากในการพิจารณาคัดเลือกใบสมัคร งานภาคเอกชนอาจหาไม่ยาก เพราะมีหลายบริษัทเปิดรับทั้งปี แต่สำหรับคนที่ยังยึดติดกับค่านิยมการรับราชการ เพราะเห็นว่ามีความมั่นคงสูงอีก ทั้งมีสวัสดิการดี
คุณวิมลรัตน์ วงษ์รักษ์ ผู้อำนวยการกองสรรหาบุคคล สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) บอกว่าข้าราชการ ในปัจจุบัน ไม่ได้ทำงานเช้าชามเย็นชาม เช่นอดีตอีกแล้ว เนื่องจากมีระบบตรวจสอบคุณภาพของข้าราชการ ซึ่งจะประเมินตั้งแต่แรกเข้า จนถึงวันเกษียณอายุ ใครก็ตามที่มุ่งหวังว่าเข้ารับราชการแล้วจะสบาย ทำตัวเป็นข้าราชการไร้คุณภาพนั้นให้คิดใหม่ ที่สำคัญอาชีพรับราชการไม่ใช่คัดเลือกใคร ก็ได้เข้ามาทำงาน แต่ต้องผ่านขั้นตอนการสอบแข่งขัน ซึ่งมีความเข้มข้นอย่างยิ่ง "เรื่องการสอบแข่งขันเข้ารับราชการ ถือเป็นการปฏิบัติตามหลักคุณธรรม หมายความว่า มีความเสมอภาคทางโอกาส ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับใครคน ใดคนหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้น คนที่มีความรู้ความสามารถ ดีกว่าคนอื่นเท่านั้นจึงจะผ่านเข้ามาได้ ถ้าใครใช้วีธีการทุจริตเข้ามา สุดท้ายอาจไม่สามารถทำได้ดังที่คาดหวังไว้ ในส่วนนี้จะมีการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นเวลา 6 เดือน ถ้าไม่สามารถทำงานได้ก็ต้องเอาออกเหมือนกัน ไม่ใช่จบตรงที่สอบผ่านมาแล้วเท่านั้น" และมีการรับสมัครผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการรับสมัครงานภาคราชการ ไม่ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไร แต่หากขาดความบริสุทธิ์ยุติธรรมแล้ว ย่อมไม่สามารถเรียกศรัทธาจากประชาชนได้
เรื่องนี้ผู้อำนวยการกองสรรหาฯ ชี้แจงว่ากระบวนการสรรหาของระบบราชการเบื้องต้น ในเรื่องของการสอบแข่งขัน ถือว่ามีความบริสุทธิ์ยุติธรรมค่อนข้างสูง ทุกขั้นตอนพร้อมให้ตรวจสอบได้ อย่างไรเสียในภาวะที่มีการแข่งขันสูง คนหางานล้นตำแหน่งงานเช่นนี้ การมองหาทางเลือกอื่นๆ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานย่อมเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนจบใหม่หรือคนที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ก็ดี การใช้บริการของบริษัทจัดหางานจึงได้รับความนิยมมากขึ้น
คุณไข่มุกข์ ปั้นแตง Account Development Manager ของบริษัทจัดหางาน รีซอร์ส ลิงค์ คอนซัลทิงก์ กรุ๊ป จำกัด (Resource Link Consulting Group Co.th) ได้ให้ความเห็นว่า การใช้บริการของบริษัทจัดหางาน (Recruitment Agency) นั้น เป็นวิธีการที่ดีวิธีการหนึ่ง ทั้งกับฝ่ายผู้สมัครงานเองและฝ่ายลูกค้า ผู้สมัครจะสามารถได้งานที่ตรงกับความต้องการของตัวเองจริงๆ ในขณะที่ลูกค้าของบริษัทฯ ก็จะได้คนที่มีความสามารถและทำงานได้จริงตามที่ตั้งใจไว้ หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า Recruitment Agency และบริษัท Outsource (บริษัทจัดหางานและดูแลผู้สมัครตลอดอายุสัญญาว่าจ้าง) ต่างกันอย่างไร เธออธิบาย ต่อว่า Outsource เป็นบริการหนึ่งของ Recruitment Agency หรืออาจจะแยกออกไปเป็นบริษัท Outsource ต่างหากเลยก็ได้ "สมมติ A เป็นโรงงาน แล้วต้องการพนักงานฝ่ายปฏิบัติการในโรงงาน 150 คน แต่บริษัท A ไม่มีนโยบายจัดจ้างพนักงานเหล่านั้น มีเงินจ้างแต่ไม่มีตำ แหน่งให้ โรงงาน A ก็ไปจ้างบริษัทที่เป็น Outsource บอกว่ามีเงินแล้วต้องการพนักงานตำแหน่งนั้นๆ โดยจะจ้างผ่าน Outsource สนใจไหม บริษัท Outsource ก็โอเค แล้วจัดหาพนักงานให้ แล้วรับดูแลพนักงานในเรื่องการจ่ายค่าจ้างด้วย" แต่บริการของบริษัทตัวแทนจัดหางานอย่าง Resource Link ดำเนินการลักษณะเป็นตัวแทนจัดหาพนักงานให้บริษัทที่ว่าจ้าง โดยผู้สมัครงานจะติดต่อกับ บริษัทโดยตรง และก่อนที่จะส่งผู้สมัครให้บริษัทลูกค้าก็จะผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกประเมินจากประสบการณ์ การศึกษา ทัศนคติ รวมถึงบุคลิกภาพ ความต้อง การของลูกค้าในแต่ละธุรกิจ
จากนั้นบริษัทตัวแทนจัดหางานจะเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างบริษัทลูกค้าและผู้สมัครงานในการนัดสัมภาษณ์และจัดเตรียมข้อมูลของทั้งสอง ฝ่าย ผู้สมัครที่สมัครงานผ่านทางบริษัทจัดหางานจะได้รับข้อมูลของบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการเตรียมตัวสัมภาษณ์กับบริษัทนั้นๆ เป็น การประหยัดเวลาและ เตรียมพร้อมได้ดี และที่สำคัญไม่ว่าผู้สมัครงานจะได้งานหรือไม่ จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนโอกาสในการได้งานนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ความสามารถหรือทักษะอื่นๆ ทุกวันนี้บริษัทจัดหางานลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งความจริงกระบวนการไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการหางานไปจากเดิม เพียงแต่เป็นพัฒนาการ หนึ่งที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเท่านั้น และนับเป็นทางเลือกหนึ่งในหลายๆ ช่องทางสำหรับการหางาน
คุณสุชาดา สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา อดีตนายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย มองว่าแม้ช่องทางการสมัครงานจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่วิธีการหางานซึ่งเป็นหลักปฏิบัตินั้น ไม่เคยเปลี่ยน เริ่มต้นง่ายๆ จากการเข้าไปดูประกาศรับสมัครงานตามสื่อต่างๆ หากพบว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติตรง หรือใกล้เคียงก็ให้ตัดสินใจสมัครทันที และเมื่อได้ตำแหน่งงานที่สนใจแล้วต้องมีวิธีในการขายตัวเอง โดยการบอกให้ชัดเจนว่า ทำไมจึงสนใจทำงานในตำแหน่งนั้นๆ แต่ด้วยคู่แข่งมีจำนนวนมาก ทักษะในการสื่อสารสื่อความจึงต้องดีทั้งพูดและเขียน ซึ่งหากไม่มีความโดดเด่นหรือเหนือกว่าคู่แข่ง ก็ยากที่จะประสพความสำเร็จ อย่างไรก็ดี การสมัครงานยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ผู้หางานควรพิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะการสมัครกับบริษัทรับจัดหางานเพื่อบริการบริษัทอื่นอีกทอด (Outsource) คุณสุชาดาแนะว่าต้องดูว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ วิธีการพิจารณาบริษัทหรือองค์กรว่าจะเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่นั้น ผู้สมัครต้องทำ ความเข้าใจและศึกษาวิธีการดำเนินการให้ละเอียด ส่วนเอเยนซี่ตัวแทนจัดหางานนั้น ผู้สมัครต้องรู้ว่าตำแหน่งงานธรรมดาคงไม่มีใครให้เอเยนซี่หาให้ เนื่องจากต้องเสียค่าบริการสูง "ให้สังเกตว่า เขามีความชัดเจนในการอธิบายลักษณะงานหรือไม่ ความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้นๆ ต้องรู้ด้วยตนเอง ถ้าไม่แน่ใจก็หาข้อมูลหรือสอบถาม คนอื่น ถ้าบริษัทไหนเรียกเก็บเงินก็ไม่น่าจะไปสมัคร เพราะไปสมัครงานที่อื่นๆ หรือเอเยนซี่ก็ไม่เรียกเงินอยู่แล้ว ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ถ้าโดนหลอก ก็ต้องแจ้งตำรวจ เราเป็นผู้เสียหาย"
ขณะที่ภาครัฐซึ่งมีบทบาทเกี่ยวกับเรื่องการมีงานทำของประชาชนโดยตรงอย่างกระทรวงแรงงาน คุณจุฑาธวัช อินทรสุขศรี อธิบดีกรมการจัดหางาน เตือน ว่าให้ระวังมิจฉาชีพที่แฝงมากับบริษัทจัดหางานหรือบุคคลที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์จากคนหางาน "อย่าไปสมัครงานโดยจ่ายเงินล่วงหน้า อย่าหลงเชื่อคำชักชวนของมิจฉาชีพ" ส่วนใหญ่คนเหล่านี้จะพูดภาษาเดียวกันโดยอ้างว่าสามารถจัดส่งไปทำงานต่าง ประเทศได้โดยไม่ต้องผ่านกรมการจัดหางาน หรือเป็นงานของผู้ใหญ่ในวงรัฐบาล ขอยืนยันว่ารัฐไม่มีนโยบายลักษณะนี้ แล้วการจะไปทำงานก็อย่า ไปเที่ยวกู้เงินนอกระบบ บางทีไปเจอพวกตั้งบริษัทหลวกลวงแล้วคุยว่าคนไหนให้เงินเท่านี้ๆ ก็จะหางานให้ก่อน ก็รีบไปกู้เงินเขามา หรือสมมติว่ามีคนมาแสดงตัวว่าจะให้ไปทำงานเงินเดือนดี ต้องคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ ต้องคิดให้รอบคอบ เช่น ทำงานเป็นยามแต่เงินเดือนสูงนั้นเป็น จริงแค่ไหน แล้วบัตรเอทีเอ็มก็อย่าเผลอไปมอบให้ใคร จากเรื่องร้องเรียน เราพบว่าผ้เสียหายไปดูประกาศตามเสาไฟฟ้าหรือตู้โทรศัพท์ มิจฉาชีพเหล่า นี้เราพยายามดักจับเท่าไรก็ไม่หมด ใครโทรฯไปก็จะถูกหลอกแล้วให้ชำระเงินก่อน เราพยายามประกาศออกทางสื่อมวลชนว่าอย่าได้หลงเชื่อ ถ้าข้องใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามให้ไปถามที่สำนักจัดหางานจังหวัด หรือมาที่กรมฯ หรือพื้นที่บริการของกรมฯ ก็ได้ เรามี Call Center ให้คำปรึกษา ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลข 1694" ปัญหาการหางานไม่ได้อันเนื่องมาจากความไม่พร้อมหรือถูกหลอกอาจเพิ่มขึ้นอีก
เนื่องจากทุกวันนี้มีอัตราคนว่างงานประมาณ ร้อยละ 1.8 ของ ประชากรทั้งหมด หรือ 1.2 ล้านคนจาก 35 ล้านคนในวัยทำงาน สำหรับอัตราการว่างงานในปีนี้กรมการจัดหางานคาดว่าจะเพิ่มมากกว่าปี 51 เล็กน้อย จากจำนวนกว่า 6 แสนคนในปีก่อนเป็นประมาณเกือบหนึ่งล้านคน โดยส่วนหนึ่งถือเป็นการว่างงานตามฤดูกาล และขณะนี้ความต้องการแรงงานของภาคเอกชนที่ กรมการจัดหางานมีตำแหน่งงานไว้ มีประมาณ 2 แสนกว่าอัตราเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณจุฑาธวัช ได้พูดถึงปญหาแรงงานที่มีผลมาจากแนวคิดของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันว่า "ผู้ว่างงาน โดยเฉพาะคนจบใหม่ไม่ว่าจะเปนระดับ ปวช. ปวส. ปริญญาตรี เดี๋ยวนี้มักมีความคิดสมัยใหม่ คือ อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจเอง ใน ลักษณะเอสเอ็มอี ซึ่งรัฐบาลเองก็สนับสนุนแนวคิดใหม่นี้ด้วย เแต่ประสบการณ์ที่จะช่วยให้คนเหล่านี้เอาไปต่อยอดในการทำธุรกิจของตนเอง ก็หาไม่ได้จากการทำงานในบริษัท ห้างร้านทั่วๆ ไป ในขณะที่บริษัทเหล่านั้นเอง ก็หาคนงานไม่ได้เช่นกัน ตรงนี้จึงเกิดปัญหาการว่างงานเป็นแสน"
สำหรับมาตรการที่จะช่วยลดปัญหาการว่างงานนั้น อธิบดีกรมจัดหางานบอกว่า หากงานไม่ตรงกับคน ก็จะสำรวจว่าผู้หางานต้องการทำอะไร จะมีการแนะแนว ให้ โดยส่งไปให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อฝึกให้ตรงกับความต้องการของตลาด แล้วหาตลาดรองรับให้ แต่ถ้าผู้หางานต้องการทำกิจการส่วนตัว ก็มีการฝึก อาชีพอิสระให้เช่นกัน "ผมแนะนำว่า ขณะนี้เรายังคงมีตำแหน่งงานว่างอีกมาก และสำหรับการหางานให้กับนักเรียนนักศึกษาที่จบใหม่ หรือ นักศึกษาที่ต้องการหารายได้ใน ช่วงปิดเทอม ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญ จึงควรรีบมาสมัครเสีย มีงานรองรับไม่ว่าจะเป็นของเอกชนหรือราชการ จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่เคยทำงาน เลย ถ้าได้มาทำงานช่วงปิดเทอม ก็ทำให้พร้อมที่จะเข้าตลาดแรงงานใหญ่ได้ ขอเพียงอย่าเชื่อบริษัทจัดหางานทั้งหลายที่เรียกเก็บเงินก่อนเด็ดขาด มาที่กรมฯ เราจัดให้ฟรีไม่เสียเงิน" ไม่ใช่เรื่องน่าอายหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่มีประสบการณ์สมัครงาน แล้วพลาดพลั้งถูกกลุ่มคนไม่หวังดีหลอกลวง แต่ขอให้เก็บความผิดหวังครั้งนี้ไว้เป็น บทเรียนเพื่อเตือนสติก่อนตัดสินใจในครั้งถัดไป เพราะสัจจะธรรมอย่างหนึ่งของโลกแห่งการค้นหา นั่นคือ "การค้นพบ" แต่จะคว้าน้ำเหลวหรือน้ำดี ขอเพียงมี "ความพยายาม" อยู่บนพื้นฐานของ "ความพร้อม" เชื่อว่าวันนั้นจะเป็นวันของคุณ...
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
 |
Knowledge Center |
|
 |
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
