หลายคนอาจจะมองว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจังหวัดที่น่ากลัว และฉันเองก็คงไม่การันตีใดๆ นอกจากคุณจะได้ไปสัมผัสเอง และนี่ก็เป็นเพียงเรื่องเล่าของคนที่ไปสัมผัสมาแล้ว
วันแรกที่ขาของฉันก้าวถึงผืนแผ่นดินเมืองปัตตานี ไมตรีที่ฉันได้รับจากคนที่นี่ทำให้หายเหนื่อยไปในฉับพลัน ด้วยการตต้อนรับจากโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่วิเศษกว่าโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวบางเมืองเสียอีก เริ่มตั่งแต่การบริการที่อบอุ่น และการต้อนรับที่เป็นกันเองของพี่ป๋องเจ้าของโรงแรม กับ พี่เจ๊าะประชาสัมพันธ์สาวสวย ก็เกินพอแล้ว
ในเช้าวันรุ่งขึ้นฉันได้รู้จักกับคนดังแห่งเมืองปัตตานีอีก 2 ท่าน นั่นก็คือ พี่ด๊ะ เลขาของนายกสมาคมท่องเที่ยวของปัตตานี ซึ่งก็คือพี่ป๋องนั่นเอง ส่วนอีกท่าน คือ อาจารย์อิสมาอีล เบญจสมิทธิ์ ผู้ที่รู้ประวัติความเป็นมาของเมืองปัตตานีตั้งแต่สมัยลังกาสุกะ และด้วยความเอื้อเฟื้อจากอาจารย์ทำให้ฉันและเพื่อนๆที่ร่วมเดินทางไปด้วย ได้เข้าไปสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของพิธีมะโซ๊ะยาวี ซึ่งเป็นพิธีสุนัตของชาวมุสลิม หรือที่เราเรียกกันว่าการขลิบนั่นเอง แต่พิธีที่ว่านี้เป็นพิธีโบราณ ซึ่งหาดูได้ยากและก็ถือเป็นโชคดีของฉัน
พิธีมะโซ๊ะยาวีจะจัดขึ้นก่อนวันที่เด็กชายจะต้องขลิบอวัยวะเพศ ถือเป็นการทำขวัญให้กับเด็ก ในพิธีนี้เด็กชายจะแต่งชุดโบราณ และมีการแสดงร้องรำทำเพลงให้เด็กๆดู จากนั้นพ่อของเด็กจะนำเด็กขึ้นคอและแห่ไปรอบๆปรัมพิธี แต่ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นการแสดงรำบาฎีกา ซึ่งจะมีเด็กผู้หญิงมาต่อสู้กัน ตลอดเวลาจะมีการเล่นดนตรีและขับร้องเพลงโบราณร่วมด้วย ดูไปก็คล้ายๆกับการทำขวัญนาคของคนพุทธเรา ที่มีเจตนาจะทำขวัญให้กับเด็กชายที่มีอายุถึงเกณฑ์ที่ต้องขลิบนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้พิธีนี้ดูขลังแล้วก็ศักดิ์สิทธ์มากจากความรู้สึกของฉันก็คือเสียงเครื่องดนตรีโบราณอันประกอบด้วยกลองหนังหน้าเดียว ฉิ่ง แล้วก็ปี่ ซึ่งจะโหยหวนและบาดลึกเข้าไปในจิตใจอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญคือการมาร่วมพิธีของคนทั้งหมู่บ้าน ถึงแม้จะดึกแค่ไหนทุกคนก็ไม่มีถอย วันนั้นพฺธีเริ่มประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ และไปจบเอาตอนเกือบรุ่งสางของอีกวัน และวันนั้นฉันก็เข้านอนด้วยความอิ่มใจถึงแม้จะง่วงจนหายง่วงแต่ก็รู้ว่าคืนนี้หลับฝันดีแน่ๆ
* ขอความกรุณาเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านช่วยโหวตให้ด้วยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนและปรับปรุงเรื่องราวให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณ
|