Version 3 " Bangkok Airways" มาแล้วค่ะ

จะมาย้ำนะคะ หวังว่าคงไม่ช้าเกินไป สำหรับผู้สมัคร บางกอกแอร์เวยส์

วันที่ไปสมัครจะเป็นวันตัดสินชะตาชีวิตเลยนะน้อง เพราะเค้าจะสัมภาษณ์คร่าวๆ พร้อมกับแยกกองใบสมัครเลยหละค่ะ

เพราะฉะนั้น ขอใหสวยเนี้ยบเฉียบเด้ง ไปได้เลยตั้งแต่วันยื่นใบสมัคร (เน้น) โดยเฉพาะเตรียมซ้อมไปเล่นๆเลยว่าเค้าจะสัมภาษณ์ถามประวัติเราคร่าวๆด้วย อย่าให้พลาดตั้งแต่วันแรกน้า

ข่าวดี มาเล่นเกมส์ SURVIVOR " BANGKOK AIRWAYS" กันเถอะ คลิกเพื่อเข้าร่วมสนุกเล้ย

สรุปขั้นตอนการสมัครและสัมภาษณ์บางกอกแอร์เวยส์ตั้งแต่วันสมัครจนถึงรอบสุดท้ายมีดังนี้ค่ะ ระยะเวลาประมาณ2เดือน

1. ยื่นใบสมัคร และรอเรียกสัมภาษณ์

2. สอบข้อเขียน Attitude test

3. สัมภาษณ์รอบที่หนึ่ง (คำถามเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว คุณสมบัติ และความพร้อม ทัศนคติที่จะทำงานนี้)

4. สอบว่ายน้ำ (ท่าไหนก็ได้)

5. สอบสัมภาษณ์รอบสุดท้าย( อ่านประกาศบนเครื่อง และทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนแล้วออกมาพรีเซนต์ให้กรรมการค่ะ)

หลังจากนั้นก็รอประกาศผลค่ะ คาดว่าจะรับประมาณ 12-15 คน

ข้อแนะนำ.. ต้องเนี้ยบตั้งแต่วันแรก(วันยื่นใบสมัคร) จนถึงวันสุดท้าย นั่นคือ ผมต้องมัดให้ตึง หน้าตาแต่งให้เนี้ยบ (เข้มนิดนึงแต่สดใสไม่ใช่โบ๊ะ) ทาสีเล็บมือเล็บเท้าที่เข้ากับสีผิวและเสื่อผ้า แต่งกายด้วยชุดสูทสุภาพ และใส่รองเท้าหุ้มส้น

กิริยามารยาทสำรวม มีสัมมาคาระวะ (จริงๆก็ควรจะมีอยู่แล้วถ้าคิดทำงานแบบนี้)

1. วันที่ไปสมัครขอให้แต่งตัวเนี้ยบ ตามคอนเซบ มีมารยาท เพราะอาจจะมีใครดูเราอยู่ก็ได้

2. สอบ Attitude test ก็ยังต้องสวย

3. สัมภาษณ์รอบแรก

การเตรียมตัวสัมภาษณ์ บางกอกแอร์เวยส์ (Bangkok Airways)

ที่บางกอกแอร์เวยส์ แอร์สวยมากๆ สจ๊วตก็ดูดีมากค่ะ เพราะฉะนั้นที่นี่ค่อนข้างจะเน้นเรื่องการแต่งตัวและแต่งหน้าเนี้ยบค่ะ

ในวันสัมภาษณ์ควรเตรียมตัวดังนี้

แต่งหน้าเข้มกว่าปกติ แต่อย่าเว่อร์ สวยแต่ต้องเนี้ยบเก็บทุกรายละเอียด

ทาเล็บทั้งมือและเท้า

ผมทำให้เรียบร้อย อย่าให้ย้อยมารุงรัง

เสื่อผ้า และชุด เหมือนกับที่ใส่ไปสมัครงานสายการบินอื่นๆ คือเป็นสูทที่เรียบร้อย(ตัดให้พอดีตัวจะดีมาก)และควรจะเป็นสีเข้ม เครื่องประดับให้ใส่ชิ้นเล็กๆ เสื้อข้างในควรจะเป็นแขนสั้น เพื่อง่ายต่อการเปิดให้กรรมการตรวจค่ะ

เอาเป็นว่าต้องสวยเนี้ยบทุกรายละเอียด ย้ำทุกรายละเอียด

ตามข้อมูลล่าสุด(จากหน่วยสวาท)

หลังจากถูกเรียกเข้าห้องสัมภาษณ์ อย่าลืมเคาะห้อง(เด้อ) พอเข้าห้องสัมภาษณ์ ก็ต้องถอดรองเท้าแล้วเดินให้ท่าน กรรมกร เอ้ยกรรมการสามท่านดู แล้วถอดเส้อสูทออกเพื่อดูผิวพรรณอันเนียนเรียบดูมือดูแขน เป็นอันเสร็จเดินกลับไปนั่งให้ปากคำ

กรรมการจะถามทั้งไทยทั้งอังกฤษนะคะ

จะโหมโรงด้วยการถามทั่วไปก่อน ประวัติชีวิตเป็นไผมาจากที่ใด ฉากต่อไปก็จะเริ่มมีกลิ่นนมเนยก็ปรับตัวไปสปีกอิงลิช คราวนี้ต้องตั้งสติสตังค์ดีดี เริ่มจากถามทั่วๆไปก่อน หลังจากนั้นก็เร่ื่องเกี่ยวกับงานนี้แหละ(เตรียมดีๆเน้อ) อาจจะมีสถานการณ์สมมุติด้วย แต่ละคำถามจะมีความเชื่อมโยงกันเพื่อที่จะให้มีความต่อเนื่อง การตอบก็พยายามนึกถึงใจกรรมการเข้าใว้ว่าเค้าอยากได้ยินอะไร แต่ แต่ อย่าลืมว่าควรจะเป็นตัวของตัวเองด้วย (ความพอดีมันบอกยากนะว่าอยู่ตรงไหน) เค้าจะเอาคนที่เตรียมตัวพร้อมคือรู้ตัวว่าตัวเองจะไปทำอะไร(วะ) อยากเป็นแอร์หรือสจ๊วตก็ต้องรู้ว่าควรจะต้องรู้อะไรบ้าง ก็เตรียมๆกันนะจะได้ตอบถูก บางทีเค้าเอาเรื่องส่วนตัวเรามาถามก็ไม่ได้อยากจะรู้อะไรนักหนาหลอก แต่ใช้เป็นร่องรอยสืบเสาะหานิสัยที่แท้จริงของเราอะ เช่น ถ้าเราเพิ่งจบเค้าก็อาจจะถามเราว่าเคยทำกิจกรรมอะไรไหม แล้วทำไมถึงชอบ เพื่อนๆที่ทำกิจกรรมร่วมกันคิดว่าเราเป็นไง ...เหรอ เออ แล้วคุณแก้ปัญหาไงคร้าบบบ เป็นต้น

หลังจากถูกซักฟอกแล้ว ก็ถึงเวลาอำลาท่านกรรมการทั้งหลายกลับไปนอนลุ้นที่ผับ เอ้ย บ้านต่อให้หัวใจมันหายตึก ตึก ตึ้ก ตี้ก ตึก