2.ชายชุดขาวมาจากไหน?
เป็นบ้านตึกแถวอยู่ในกรุงเทพ เจ้าของบ้านท้าทางทีมงานมิติลี้ลับให้ไปลองของ บ้านจะมี 3 ชั้น เจ้าของบ้านจะอยู่เฉพาะชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เอาไว้นอน แต่ชั้นที่ 3 จะไม่มีใครกล้าขึ้นไปเพราะทั้งครอบครัวเขาจะได้ยินเสียงประหลาดๆ ตัวอย่างเช่น เสียงชักโครกดังทั้งๆที่ไม่มีคนเข้า หรือถ้าขึ้นไปใช้ห้องน้ำชั้น 3 จะรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนแย่งเข้าห้องน้ำ ทางทีมงานเมื่อไปถึงบ้านหลังนี้ตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไร ก็เลยตั้งกล้องทิ้งไว้และขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้า ก็ได้กลิ่นเหมือนกับยาที่อยู่ในโรงพยาบาลและอากาศอ้าวมาก เครื่องมือใช้วัดพลังงานที่ทิ้งไว้กับการตั้งกล้องก็ดังเป็นระยะๆ ซึ่งแสดงถึงความผิดปกติ และเมื่อเรานำเทปเข้าไปในห้องตัดต่อก็เห็นเงาประหลาดลักณะเป็นโครงร่างของคนแค่ท่อนบน แต่โครงร่างของคนที่เห็นจะค่อยๆ ปรากฎขึ้นตามเสียงของเครื่องมือ เมื่อเครื่องมือดังถี่ขึ้น โครงร่างนี้ก็จะปรากฏขึ้น แต่เมื่อเครื่องมือเงียบลงโครงร่างก็จะหายไป เจ้าของบ้านบอกว่าเขาไม่เคยทำร้ายหรือไม่เคยปรากฏให้เห็นแบบน่ากลัวเลย เวลาเขาทานข้าวหรือออกจากบ้านก็จะเรียกให้มาร่วมกิจกรรมด้วยตลอดถ้าวันไหนไม่เรียก บางทีก็จะได้ยินเสียงตึงๆจากชั้น 3 เหมือนกับแสดงอาการไม่พอใจ เทปนี้สามารถหาดูได้จากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ หน้า1 และมากกว่านั้นทางนักข่าวของหนังสือพิมพ์ก็เคยไปลองของที่บ้านหลังนี้แล้วเช่นกัน
5.ไก่หัวขาดแต่ไม่ตาย ไม่ทราบว่ามีใครรู้ความจริงเรื่องนี้มั่งหรือเปล่า
ไก่ตัวนี้มีชื่อว่า ไมค์(Mike) ครับ.
เรื่องมันมีอยู่ว่าเจ้าของฟาร์มคิดจะทำไก่ย่างในวันขอบคุณพระเจ้าเลยเลือกเจ้าไมค์จะมาทำไก่ย่าง
ซึ่งในตอนที่เอาขวานฟันลงไปที่คอของเจ้าไมค์(อึ๋ย)หัวของมันขาดลงมาสงบนิ่งอยู่ที่พื้น
แต่ตัวมันน่ะซิครับมันกลับกระโดดลงมาจากเขียงแล้ววิ่งพล่านไปทั่วเล้าจนหายไปไหนก็ไม่รู้ เลยต้องเอาไก่อีกตัวมาทำ
ในวันรุ่งขึ้นเจ้าของกลับพบว่าเจ้าไมค์กลับมาอยู่เล้าทั้งๆที่ไม่มีหัว
แล้วยังทำท่าคุ้ยเขี่ยหาอาหารเหมือนกับไก่ทั่วๆไปผิดแต่ว่ามันไม่มีหัวเท่านั้นเอง!
เจ้าของเลยสงสัยว่ามันอยู่ไปได้อีกนานเท่าไหร่ก็เลยเลี้ยงไปเรื่อยๆโดยให้อาหารด้วยที่หยอดตาผ่านทางหลอดอาหาร
แน่ละครับเรื่องนี้ไปเข้าหูพวกสื่อมวลชนโดยนิตรสารTIME มาขอทำเรื่องนี้ทำให้เจ้าไมค์ดังเป็นพลุแตกเลย
ยังผลทำให้มีคนเลียนแบบทั่วประเทศก็เลยทำให้ทุกบ้านมีไก่ย่างกินเป็นอาหารเย็นกันทุกวันแต่ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ
และในช่วงสุดท้ายของชีวิตของไมค์ตายโดยเมล็ดข้าวโพดเข้าไปติดหลอดลมตาย
ซึ่งนับจากวันที่หัวขาดจนวันตายนับได้ประมาณ 18 เดือนพอดี
พอเจ้าไมค์ตายเจ้าของก็เสียใจมากเลยจัดตั้งวัน "ไมค์ไก่ไร้หัว(Mike the headless Chicken Day)" ขึ้นมาทุกๆปีเดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน
ถ้าต้องการข้อมูลมากกว่านี้คุณสามารถเข้าไปดูได้ที่
http://www.miketheheadlesschicken.org