เอเอฟพี-คณะนักวิทยาศาสตร์บราซิล
ประกาศด้วยความยินดีว่า พวกเขาค้นพบต้นกาแฟพันธุ์หายาก
ซึ่งสามารถให้ผลที่นำมาทำเป็นกาแฟไร้สารคาเฟอีนตามธรรมชาติ
ทว่ายังคงมีกลิ่นรสหอมละมุนอย่างสมบูรณ์แบบ
ถิ่นกำเนิด..... ต้นกาแฟพันธุ์นี้อยู่ในเอธิโอเปีย
กาแฟที่นิยมบริโภคกันในโลก.... แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด (species) ใหญ่ๆ คือ
อะราบิกา กับ โรบัสตา
ต้นกาแฟพันธุ์ที่ค้นพบนี้เป็นอะราบิกา ซึ่งคิดเป็นประมาณ 70% ของกาแฟที่บริโภคกันทั้งหมด
คณะนักวิจัยชาวบราซิลเขียนผลงานของพวกเขาลงใน "เนเจอร์" วารสารรายสัปดาห์ทางวิทยาศาสตร์ชื่อดังของอังกฤษ
บอกว่ ต้นกาแฟพันธุ์ล้ำค่านี้มีด้วยกันรวม 3 ต้น จึงได้รับขนานนามว่า เอซี1,เอซี2,และ เอซี3 ทั้ง 3 ต้นแทบปลอดสารคาเฟอีนโดยสิ้นเชิง
ในตลาดเวลานี้มีกาแฟปลอดคาเฟอีนวางจำหน่ายกันอยู่แล้ว ทว่าเป็นการนำเม็ดกาแฟซึ่งตามธรรมชาติ
มีสารคาเฟอีน มาผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม อาทิ ผ่านสารละลายซึ่งจะเป็นตัวกรองสารไม่พึงประสงค์นี้ออกไป
แต่กระบวนการเช่นนี้ก็ทำลายส่วนประกอบจำนวนมากที่ทำให้กาแฟมีกลิ่นรสหอมละมุน แถมยังต้องใช้พลังงานจำนวนมาก อันหมายถึงราคาต้องสูงกว่ากาแฟปกติ เวลานี้กาแฟปลอดคาเฟอีน มีสัดส่วนราว 10% ของตลาดกาแฟโลก แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าความต้องการกาแฟแบบนี้ต้องพุ่งลิ่ว หากสามารถพบวิธีผลิตเม็ดกาแฟที่ไร้คาเฟอีนตามธรรมชาติ
เมื่อปีที่แล้ว คณะนักวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพของญี่ปุ่นประกาศว่า ประสบความสำเร็จในการสร้าง
ต้นกาแฟตัดแต่งทางพันธุกรรม(GM หรือ GMOs) ซึ่งลดกิจกรรมของยีนส์คาเฟอีนในต้นกาแฟธรรมดาลงได้ราว 50-70% ทว่าต้นกาแฟจีเอ็มโอย่อมเป็นที่รังเกียจของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ซึ่งหวั่นเกรงว่ายีนส์ที่ถูกตัดแต่งใหม่ของมันอาจแพร่ไปสู่พืชชนิดอื่นๆ หรือกระทั่งอาจเป็นภัยต่อสุขภาพของมนุษย์ในระยะยาว
คณะนักวิจัยบราซิลบอกว่า ขั้นตอนต่อไปที่จะต้องทำคือ การถ่ายโอนยีนส์ ของเจ้า เอซี1, เอซี2, และ เอซี3 ไปสู่ต้นกาแฟอะราบิกาพันธุ์ทั่วไป โดยน่าจะใช้วิธีผสมข้ามพันธุ์แบบอาศัยการเพาะเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นวิธีที่เคยกระทำกันมาแต่โบราณ ไม่จำเป็นต้องไปถึงขั้นนำเอา ดีเอ็นเอ (DNA)มารวมผสมกัน
เป้าหมายของการถ่ายโอนยีนส์นี้คือ ได้ต้นกาแฟที่รวมคุณสมบัติดีเด่นทั้งหลายเข้าด้วยกัน
นั่นคือ ปลูกง่าย มีกลิ่นรสละมุนเต็มๆ และไร้คาเฟอีนตามธรรมชาติ
เรื่องพืชหรืออาหารต่างๆที่ผ่านการทำ GMOs ในความรู้สึกส่วนตัวในฐานะที่เรียนมาด้าน BIOTECHNOLOGY ไม่ได้เป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพการกินอย่างที่เราๆท่านๆ คิด ลองเปิดใจรับกับนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ดูสักหน่อย!ก็ไม่เห็นแปลก
Ref: Manager.co.th
|
