เมื่ออายุย่างเข้าวัย 30 ขึ้น เคยไหมที่เราเกิดนึกคำถามคาใจในวัยเด็กขึ้นมาได้ แล้วก็เกิดอาการปวดเศียรเวียนเกล้ากับตัวเอง เพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร เนื่องจากพ้นวัยที่จะคิดจะฝันอะไรๆแบบวัยเด็กได้อีกว่า " โตขึ้นอยากจะเป็นอะไร "
ช่วง วัยสัก 3-4ขวบ หรืออาจจะสัก 7-9ขวบ เรามักจะคิดฝัน และจินตนาการเอาว่าเราคือ สิ่งที่เราอยากเป็น ....อยาก เป็น หมอ อยากเป็นครู อยากเป็นตำรวจจะได้จับผู้ร้าย ฯลฯ วัยที่อะไรๆ ก็ไม่เกินจริงเพราะสิ่งที่อยู่ในสมองมันซ้อนทับกับความฝันของตัวเองจนแยกไม่ออก ความที่เรายังเด็กวิธีการคิดวิธีการตอบสนองต่อโลกก็คือการลื่นไหลไปกับจินตนาการ มันไม่ใช่การหลอกลวงตัวเองว่าเราจะเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ แต่เรียกได้อีกอย่างว่า การเลือกสรรค์ที่จะเป็นอย่างจินตนาการ
ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อการรับรู้ต่างๆได้ถูกเติมเข้าสมองและความนึกคิดเรามากขึ้นๆตามวัยจะทำให้เพื่อนสนิทที่เราเรียกขานว่าจินตนาการ หายไปบางส่วนจนอาจจะไม่เหลือคำถามเดิมๆที่เคยมี คำถามยอดฮิต คำถามที่เป็นแรงกระตุ้นและแรงผลักให้ใครต่อใครหลายๆคนได้ดิบได้ดี จนมีหน้ามีตาในสายงานอาชีพต่างๆได้หดหายไปจนอาจจะไม่เหลืออยู่ในใจ
" โตขึ้นอยากเป็นอะไรจ๊ะ " น่าจะเป็นหนึ่งในคำถามที่เราคุ้นเคยและเฝ้ามองหาคำตอบให้ตัวเราเองเรื่อยมาตั้งแต่วัยเด็ก แม้บางคนไม่เคยตั้งคำถามนี้ให้ตัวเอง แต่ก็อาจจะเคยมีบ้างที่คุณน้าใจดีข้างบ้านเดินมาทักทายแล้วถามคำถามนี้กับเรา
แล้วเราได้คำตอบนี้แล้วหรือยังครับ ?
อันนี้มันก็ต้องให้ทุกคนที่เคยผ่านวัยเด็ก ได้ลองตอบ หรือลองรำลึกถึงมันดูเพราะมันคือเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ที่ทำให้เราโตมาอย่างมีแรงกระตุ้น
ผมเป็นคนนึง ที่เคยถูกถาม เคยคิดจินตนาการว่าตัวเองอยากเป็นวิศวกร เมื่อเข้าเรียนจึงมุ่งมั่นที่จะเรียนมัธยมสายวิทย์-คณิต แล้วก็เรียนมาจนจบมัธยมปีที่6ซึ่งเป็นวัยที่คำถามเริ่มจะลางเลือน "โตขึ้นอยากเป็นอะไรจ๊ะ" ....เมื่อวัย5 ขวบผมอาจจะตอบว่าอยากเป็นหมอ พอเข้าวัยมัธยมก็อยากเป็น วิศวกร... แต่ ..
มารู้ความจริงเมื่อใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยว่าจินตนาการในวัยเด็กมันมีพลังน้อยเหลือเกิน ผมไม่ได้ตอบว่าอยากเป็นวิศวกรอีกแล้ว เพราะเรียนจบแผนวิทย์แต่ไปเลือกเรียนด้านโบราณคดี ไม่ทราบว่าจินตนาการหรือแรงดลใจจากภูติผีตนใดจึงทำให้ผมเลือกเรียนทางสายที่ไม่เคยได้คิดมาก่อนว่าจะเรียนได้
มารู้ตัวอีกที ผมก็หลงไหลในศิลปะเนื่องจากเรียน โบราณคดี เอกประวัติศาสตร์ศิลปะ และเมื่อการรับรู้และข้อมูลต่างๆที่ทะลักจุกแตกเข้าสู่ตัวจนล้น จินตนาการที่เคยมีเพื่อหล่อเลี้ยงคำถาม " โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรจ๊ะ " และคำตอบที่เคยคิดว่า..อยากเป็นวิศวกร ก็ได้อันตรธานหายไป
เมื่อคนเราโตขึ้นๆ จินตนาการ ต่อคำถามบางคำถาม อาจจะมีการใช้จิตสำนึกเข้าไปช่วยตอบได้โดยมีการวิเคราะห์หาคำตอบ แต่ จินตนาการต่อ คำถามฝังใจที่ว่า " โตขึ้น เราอยากเป็นอะไร " กลับเป็นอะไรๆที่ผมแทบไม่เคยมอง และบางทีไม่เคยคิดย้อนไปมองด้วยซ้ำ เพราะ นี่ก็เข้าช่วงวัยอายุ 30 แล้ว
ถ้าจะให้ตอบตอนนี้ คงไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ว่าโตขึ้น(กว่านี้)อยากเป็นอะไรแต่ก็อยากให้น้องๆ ที่ยังอยู่ในวัยเรียนได้ลองใช้จินตนาการร่วม ได้ลองย้อนกลับไปถึงคำถามนั้นดู บางทีก่อนที่เราจะพ้นเลยวัยแห่งจินตนาการเราอาจจะไม่หลงเดินทางผิด หรือ อย่างน้อย ก็เป็นการย้อนไปเจอเพื่อนเก่า ย้อนไปคุยกับตัวเองและพูดกับตัวเอง ว่า " โตขึ้นเราอยากเป็นอะไร "
อาจจะไม่มีคำตอบ หรือบางทีเราไม่อยากรู้คำตอบ แต่มันก็เป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าเราได้ลองนึกคิดถึงมันบ่อยๆเมื่อเราท้อแท้ เมื่อเราเหนื่อยหน่ายในหน้าที่การงาน การเรียนและการใช้ชีวิต
ให้คำถามนั้นได้เตือนเรา ว่า ชีวิตเรายังมีอะไรต้องทำอีกเยอะ และอย่าไปท้อกับมันแม้เราจะยังไม่ประสบผลสำเร็จในสิ่งนั้นๆก็ตาม
ตอนนี้ผมเองก็ชักอยากรู้แล้วว่า... โตขึ้น ผมอยากเป็นอะไร
|