วันนี้ขอทำหน้าที่ ที่ไม่มีใครเขาจ้างสักวันนะค่ะ ที่มาของการเป็นผู้แนะนำอาหารอร่อยในวันนี้ และก็ตั้งใจจะแนะนำกันต่อไป ถ้าไปเจอร้านอร่อยๆ  ก็เพราะไปเจอญาติทางแม่สายลพบุรี ด้วยความที่ไม่ได้เจอกันนาน ก็เลยไปเจอเสียหน่อย งานนี้คุณวิไปเป็นเพื่อนคุณนายแม่ค่ะ  ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยมังกรของถนนเทพารักษ์ ช่วงสี่แยกเทพารักษ์ถนนศรีนครินทร์ ทางเข้าในซอยมังกรแรกๆ  ก็รู้สึกว่า เล็กๆ  แคบๆ แต่พอเดินทางไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งแปลกใจ และแปลกใจ เพราะมันมีหมู่บ้านและก็หมู่บ้าน เยอะมากๆ ทั้งที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่และกำลังสร้างอีกมากมาย แต่ไม่น่าเชื่อรถประจำทางในซอยมีทั้งหมดแค่ 7 คัน ถ้าใครจะเดินทางไปชิมแล้วไม่มีรถไปก็ต้องบอกว่า ท่านช่างเป็นนักชิมโดยสายเลือดอย่างแท้จริง ร้านนี้ชื่อว่า ร้านข้าวแกงหม้อดินเมืองละโว้ เรือก๋วยเตี๋ยวกระทะ เจ้าของร้านสองสามีภรรยาเพิ่งมาเปิดร้านในทำเลใหม่ได้ไม่ถึงเดือน แต่ไม่ใช่แม่ค้า พ่อค้าเลือดใหม่ แต่เป็นแม่ครัวฝีมือเก๋าจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็คงเปิดขายที่เทพารักษ์ กิโล 2 ไม่ได้ มากกว่า  15 ปีได้แน่ๆ

            ร้านนี้ได้ชื่อข้าวแกงหม้อดินก็เพราะว่า แกงต่างๆ ใส่ภาชนะหม้อดินมีฝาปิดมิดชิด ดังนั้นกลิ่นของอาหารก็จะมีกลิ่นหม้อดินหอมๆ แตกต่างจากการใส่หม้อแกงธรรมดา  อาหารจะผลัดเปลี่ยนเวียนไปไม่ซ้ำกันวันละ 5-10 อย่าง ซึ่งก็แล้วแต่วันค่ะ อาหารจะมันมากสักหน่อย คือไม่หวงกะทิค่ะ เครื่องเต็มที่ ไม่มีกลิ่นคาว สำหรับคนชอบมันก็จะได้ใจอย่างมาก ปกติคุณวิอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก มันๆ เลี่ยนๆ ไม่ขอทานมาก แต่วันนี้ตบะแตกค่ะ  น้ำแกงอร่อยมาก กะทิล้วนๆ ราดชุ่มๆ คุณวิทานข้าวแห้งๆไม่ได้เป็นเด็ดขาด ร้านไหนหวงน้ำแกง หวงน้ำผัดเนี่ยจะไม่ชอบทานอีกถ้าไม่จำเป็น มันจะติดคอ ก็เหมือนกับร้านข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ดที่ชอบแล่เนื้อไก่ เนื้อเป็ด บางๆ ไม่พอแล้วตบให้แบนๆ เรียบๆ ก่อนจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วก็เล็ก กินแล้วแห้งแล้งจริงๆ อาหารที่นี่เขาขายเป็นชุดค่ะ ไม่ตักราดข้าว ข้าวแยกต่างหากจากกับข้าว เสิร์ฟมาเป็นชุด  

                  นอกจากข้าวแกงแล้ว ก็ยังมีเรือก๋วยเตี๋ยวกระทะ มันก็คือก๋วยเตี๋ยวเรือนั่นแหละค่ะ แต่ว่า เอากระทะมาใส่น้ำก๋วยเตี๋ยวแทนหม้อก๋วยเตี๋ยวเหมือนที่อื่นๆ แล้วก็เอากระทะวางไว้ในเรือโบราณอีกที มองจากหน้าร้าน ก็จะเห็นหัวเรือทะลุออกมานอกร้านกันเลยทีเดียว แม่ค้าน้าสร้อยคนสวย แม้จะหน้านิ่งๆ เสียหน่อยแต่ว่าใจดีค่ะ

               ฝีมือในการลวกเส้นเอย ผักเอย หรือแม้แต่เนื้อหมูสด หรือตับ ก็ลวกได้พอดีไม่แข็งเกินไป ไม่ดิบเกินไป เวลาเคี้ยวแล้วให้ความรู้สึกนุ่มลิ้นค่ะ ปกติจะไม่ชอบทานตับในแกง นอกจากผัดกับกุยช่าย แต่ต้องบอกว่า ที่นี่ลวกดีจริงๆค่ะ แล้วหมูตุ๋นก็นุ่มอร่อยมากๆ  ถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวเขาจะมีผักเสิร์ฟให้ทานกันได้เต็มที่ แม้แต่ผักที่กินกับก๋วยเตี๋ยวก็ต้องแนะนำค่ะ ใครทานมะระกันบ้างค่ะ คุณวิคนหนึ่งละที่ขอลา แต่ที่นี่เขายืนยันว่ามันไม่ขม มะระสดหวานกรอบ ก็ต้องลองชิมเพียงเล็กน้อย ก็ให้ทึ่งค่ะ จริงๆ ด้วย ไม่ขม ทานกับก๋วยเตี๋ยวอร่อยมาก ไม่เขียนชมมั่วเลยจริงๆ คุณวิอยู่ในระหว่างลดน้ำหนักแต่วันนี้ทานเข้าไป ข้าวแกง 1 อย่าง ก๋วยเตี๋ยว 2 ชาม  ก๋วยเตี๋ยวชามละ 15 บาท ตามด้วย น้ำแข็งใส โอ้ ไม่อยากจะบอกว่า น้ำกะทิหอมกะทิมากๆ เข้มข้นถึงใจ กลิ่นมะลิหอมอ่อนๆในขนมอีก ชื่นใจมาก ถ้วยขนมสวยมาก ราคาถ้วยละ 10 บาท ไม่น่าเชื่อ เห็นทีแรกคิดว่าขนมน่าจะถ้วยละ 15 เพราะถ้วยไม่เล็กเลยนะค่ะ อิ่มจริงๆค่ะ

                  ที่สำคัญอีกอย่างก็คือบรรยากาศ ร้านนี้ปลูกสร้างอยู่ใกล้บึงบัว ร้านยกพื้นสูง ประมาณ 1 เมตรได้  หลังคาสูงโปร่ง ดังนั้นบรรยากาศจะออกโล่งๆ เย็น สบาย นั่งนานก็ไม่รู้สึกเบื่อ อ้อ โต๊ะอาหารก็น่ารัก ใช้กระเบื้องปูสลับสีกันบนพื้นโต๊ะ สีสันลงตัวมาก  บรรยากาศก็เลยน่ารัก น่ากินไปได้เรื่อย เท่าที่นั่งทานไปดูไป แม้แต่เด็กเล็กๆ ก็ยังร้องบอกว่า ทำไมน้ำก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยจับงเลย ไปชำเลืองแต่ละโต๊ะ น้ำก๋วยเตี๋ยวแห้งขอด เรียกว่าซดกันหมดชาม ผู้ใหญ่ไม่มีการสั่งแค่ชามเดียว ลูกค้าทานแล้วกลับทานต่อ แถมจะแนะนำลูกค้ามาให้อีก

           อีกเรื่องที่จะลืมบอกไปเสียไม่ได้ เขามีโปรโมรชั่นค่ะ ทานก๋วยเตี๋ยวครบ 30 ชาม แถมโค๊ก 1 ลิตร 1 ขวดไปเลย กินสะสมกันไปได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีน้ำลูกสำรองผสมน้ำดอกคำฝอย สำหรับคนชอบน้ำสุขภาพด้วยค่ะ

            การเดินทางมาไม่ยากค่ะ เข้าซอยมังกรมาแล้ว ก็ตรงมาเรื่อยๆ ตามเส้นทาง ซึ่งจะหักโค้งเล็กน้อยสัก 2 โค้ง ผ่านหมู่บ้านมาตลอดทาง ตรงมาเรื่อย จนเห็นหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10 ก็ใกล้ถึงแล้วค่ะ เลยมาอีกหน่อยก็จะเห็น หมู่บ้านลลิษา นั่นแหละค่ะ จะถีงแล้ว อีกสัก 100 เมตรเห็นจะได้ ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านค่ะ ตรงข้ามร้านมีร้านขายยาชื่อร้านมังกรเภสัช ด้านข้างซ้ายของร้านนี้จะมีร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งสวนค่ะ ติดทางด้านขวา เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหม้อดิน ไม่ใช่ร้านที่แนะนำค่ะ ชื่อคล้ายๆ กัน หรือจะเดินทางมาจากทางแพรกษา เข้ามาผ่านโรงเรียนสุขเจิรญผล  ข้ามสะพานมา 2 สะพาน จะถึงบึงบัว ก็ถึงร้านแล้วค่ะ ร้านเปิดตั้งแต่  7 โมงเช้า ถึง 2  ทุ่มทุกวัน บางวันลูกค้ามาเรียกก่อนเปิดเสียอีก สำหรับนักชิมหรือผู้อยู่แถบนั้นแล้วอยากไปลองชิมก็ลองแวะกันเข้าไปกินกันดูนะค่ะ รับรองว่า จะติดใจค่ะ สอบถามเส้นทางถ้าไปไม่ถูกได้ที่เบอร์ 07-9113325 ขอสายคุณสร้อยค่ะ

catsan
8/7/49