ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
เกร็ดภาษี (2) : รายจ่ายต้องห้าม
เขียนโดย เอกพล ยวงนาค
|
Rated:
by 3 users |
|
|
|
|
รายจ่ายต้องห้าม
เป็นกรณีปกติที่เวลามีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมา บริษัทอาจจะมีการจดทะเบียนด้วยทุนจดทะเบียนที่สูงไว้ก่อน แต่ว่าเวลาเรียกเก็บเงินค่าหุ้น บริษัทอาจจะยังเรียกเก็บไม่ครบ ซึ่งสามารถทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งกำหนดไว้เพียงว่าต้องมีการชำระค่าหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ประเด็นที่ตามมาคือเมื่อบริษัทประกอบกิจการแล้วประสบผลขาดทุน แต่ในขณะที่บริษัทเองก็ไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินค่าหุ้นเพิ่ม แต่บริษัทเลือกที่จะใช้วิธีกู้ยืมเงินจากผู้ถือหุ้น และชำระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ยังชำระค่าหุ้นไม่ครบแทน ต่อมาปรากฏว่าสำนักงานสรรพากรพื้นที่เข้าไปตรวจสอบแล้วเจอเหตุการณ์ตรงนี้ สำนักงานสรรพากรพื้นที่เลยบอกว่า เอ๊ะ แบบนี้ไม่ได้สิ แบบนี้ รายจ่ายดอกเบี้ยที่บริษัทจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นลูกหนี้ค้างชำระค่าหุ้นเข้าลักษณะเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร อันได้แก่ รายจายซึ่งมิใชรายจายเพื่อหากําไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ เพราะว่าบริษัทฯ สามารถเรียกค่าหุ้นค้างชำระจากผู้ถือหุ้นซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการโดยไม่มีต้นทุน จากนั้น สำนักงานสรรพากรพื้นที่เลยจะให้ประเมินเงินได้ของบริษัทเพิ่มเพื่อเสียภาษีเพิ่ม แล้วแบบนี้ท่านจะทำอย่างไรครับ?
ใจเย็นๆครับ ในส่วนนี้ กรมสรรพากรได้มีแนวทางออกมาแล้วว่า กรณีที่การที่บริษัทฯ ขาดทุนหมุนเวียน และได้กู้ยืมเงินจากกรรมการหรือผู้ถือหุ้นที่ค้างชำระค่าหุ้นเพื่อนำเงินมาใช้ดำเนินกิจการของบริษัทฯ หากบริษัทฯ พิสูจน์ได้ว่าบริษัทฯ ได้นำเงินที่กู้ยืมดังกล่าวมาใช้ดำเนินกิจการของบริษัทฯ ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ บริษัทฯ ย่อมนำมาถือเป็นรายจ่ายได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯสามารถใช้ประโยชน์ในการหักค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ยได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังด้วยนะครับว่าในบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น มีการระบุว่าได้มีการเรียกชำระค่าหุ้นเต็มแล้วหรือยัง เพราะหากบริษัทฯ ระบุในบัญชีผู้ถือหุ้นว่าได้เรียกชำระค่าหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ถือหุ้นยังมิได้ชำระค่าหุ้นครบตามจำนวนที่ระบุไว้ ซึ่งเป็นเหตุให้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ย่อมขาดหายไป กรณีจึงถือได้ว่าบริษัทฯ ได้ให้ผู้ถือหุ้นกู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ยโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจประเมินดอกเบี้ยตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากรได้ อันทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่ม ซึ่งอาจจะต้องเสียภาษีในที่สุดครับ (หนังสือตอบข้อหารือกรมสรรพากรเลขที่ กค 0706/7680 ลงวันที่ 13 กันยายน 2548)
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
Knowledge Center |
|
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|