จริงแล้วๆ อยากให้หมวดหมู่ที่เลือกนั้นเป็นเรื่อง ที่หลากหลายมากว่า ประมาณว่าตอนที่อารมณ์และจินตนการในหัวมันกำลังทำงาน ก็อยากจะปลดปล่อย เรื่องบางเรื่องที่เขียนมิได้มีกำหนดว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เหมือนคนที่หาจุดยืนของตัวเองไม่เจอ (เชื่ออย่างนั้น)...
เหมือนคนธรรมดาที่ไปเจอะไปเจอเรื่องราวต่างในแต่ล่ะวัน แล้วอยากเล่าอยากระบายให้ใครก็ได้ที่อยากอ่าน หากมีเพื่อนดีสักคนหรือหลายคนๆ สนใจจะฟัง ก็คงไม่มีข้อความเหล่านี้มานั่งพิมพ์เคาะแก๊กๆ แบบคนไม่เคยเรียนพิมพ์ดีดมาเลย..
กรุงเทพ.....เมืองที่วุ่นวายที่สุดในประเทศไทยตอนหลังเคารพธงชาติ อากาศเดือนพฤษภาคมซึ่งจริงๆแล้วน่าจะเย็นสดชื่นแต่ปีนี้ดูจะร้อนมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา... รถเมล์สายที่ยืนรอประจำขับเคลื่อนมาอย่างช้าๆ ตามหลังสายอื่น....ฝูงชนต่างวิ่งแย่งกันเพื่อเบียดเสียดหาที่นั่ง ....สำหรับตัวฉันแล้วฉันอยากเห็นคนเหล่านั้นขึ้นไปบนรถให้หมด เพื่อที่ตัวฉันเองจะได้ไม่ต้องแย่งตั้งแต่ขั้นตอนการขึ้น.....
ปล่าวหรอกฉันไม่ได้คิดว่าตัวฉันดีกว่าใครมากมาย เพียงแต่คิดไปไกลกว่านั้นว่าจะต้องแย่งกันไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการลงจากรถเลยหรือ?...
มีน้องที่กลับทางเดียวกันก้คิดเหมือนฉัน เธอเป็นผู้หญิงที่แกร่งและอึดพอสมควรทีเดียว วันหนึ่งเธอปวดท้องเธอยังไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดขอความช่วยเหลือสักที่ว่าง บนรถเมล์...
เสียงพูดที่ส่วนใหญ่มักจะได้ยิน ก็จะเป็นสียงของคนใจร้อนที่ต่างอยากถึงบ้านให้เร็ว.. ......
แต่ฉันก็มักจะชวนน้อง พูดคุยถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่เป็นเหมือนความฝันในวัยเด็กที่มีความสุขเหลือเกิน เรื่องอาหารเย็นบ้าง
และสุดท้ายก็ธรรมะเนื่องจากฉันนับถือศาสนาพุทธ...
น้องเขามักจะบอกว่าฉันแก่ ฉันยอมรับตัวเองว่าส่วนหนึ่งในการคิดเวลาจะทำอะไรสักอย่างที่เป็ฯประโยชน์กับคนอื่นฉันมักจะ
เลือกจะสิ่งที่เห็ฯว่ามีประโยชน์ แม้กระทั่งคำพูด แต่ถ้าถามว่าในส่วนตัวฉันแล้วฉันเคยเลือกอะไร ใคร่ครวญไตรตรองให้ตัวเองบ้างไหม ฉันแทบไม่รู้เลยว่าตัวฉันอะไรคือสิ่งดีๆ ความทรงจำของฉันเลวร้ายมากมาย แต่ละเรื่องหากคิดในทางให้กำลังใจตัวเองมันก้แค่ ผ่านมันมาได้...แต่ฉันไม่อยากเล่าหรอก.....
สิ่งที่อยากบอกก็คือ เตือนคุณสาวๆทั้งหลาย คุณควรจะยืนให้ค่อนไปทางประตูหน้าของรถเมล์... เพระหากคุณสังเกตุสักนิดพวกที่ทำอะไรให้คุณตกใจเล่นและผู้ชายส่วนใหญ่ไม่นิยมขึ้นประตูรถเมล์ข้างหน้าสักเท่าไหร่..
|