ชะราธัมโมมหิ
เรามีความแก่เป็นธรรมดา
ชะรัง อะนะตีโต
เราไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
พะยาธิธัมโมมหิ
เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
พะยาธิง อะนะตีโต
เราไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
มะระณะธัมโมมหิ
เรามีความตายเป็นธรรมดา
มะระณัง อะนะตีโต
เราไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว
เรามีความเป็นต่างๆ และมีความละเล้น คือ เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น
กัมมัสสะโกมหิ
เรามีกรรมเป็นของของ ตน
กัมมะทายาโท
เราจะต้องรับผลของกรรม
กัมมะโยนิ
เรามีกรรมนำมาเกิด
กัมมะพันธุ
เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ พวกพ้อง
กัมมะปะฏิสะระโณ
เรามีกรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสามิ
เรากระทำกรรมอันใดไว้
กัละยาณัง วา ปาปะกัง ว่า
เป็นบุญหรือเป็นบาป
ตัสสะ ทายาโท ภะววิสสามิ
เราจะต้องรับผล ของกรรมนั้น
อภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง
พึงพิจารณาเห็นเนืองๆ ดังนี้
อะยัง กาโย
อันว่าร่างกายของเรานี้
อะจิรัง วะตะ
ไม่นานหนอ
อะเปตะวัญญาโน
มีวิญญาณไปปราศจากแล้ว
ฉุฑโฑ
เป็นของสูญเปล่า
อะธิเสสสะติ
จักนอนทับ
ปะฐะวิง
ซึ่งแผ่นดิน
นิรัตถึงวะ กะริคะลัง
เปรียบประดุจดังว่าท่อนฟืนอันผุไม่มีประโยชน์เป็นแท้
สังขาระ
อันว่าสังขารและธรรมทั้งหลาย
อะนิจจา วาตะ
ไม่เที่ยงหนอ
อุปปาทะวะยะธัมมิโน
บังเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมเสื่อมไป
ปุปปัชชิตะวา นิรุชณันติ
ครั้นบังเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมดับไป
เตสัง วุปะสะโมสุโข
พระนิพพานเป็นที่ดับเพลิงกเลส และกองทุกข์ เป็นบรมสุขอันใหญ่ยิ่ง
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
มะรันติ จะ มะริงสุ จะ มะริสสะเร
ตายอยู่ด้วย ตายแล้วด้วย จักตายด้วย
ตะเถวาหัง มะริสสามิ
เราก็จักตายอย่างนั้นเหมือนกัน
นัตถิ เม เอตถะ สังสะโย
ความสงสัยในเรื่องตายนี้ไม่มีแก่เรา
|