สวัสดดีครับท่านผู้อ่าน
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ทั่งที่เริ่มต้นตั้งแต่การติดตั้งใช้งานเองที่บ้านก็ดี หรือจะเข้าไปใช้บริการ
ตามร้านค้าที่เปิดให้บริการก็ดี คงทราบกันดีและเห็นกันอยู่ในปัจจุบันแล้วว่า อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในประจำวันของเราไป
ซะแล้ว และก็แพร่หลายไปสู่กลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคม ตั้งแต่เด็กนักเรียนวัยกระเตาะ จนถึงผู้ใหญ่ ในหลายระดับ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะครับที่จะรู้จัก
อินเทอร์เน็ตไปซะหมด บางคนยังไม่รู้จักว่า อีเมล คืออะไรด้วยซ้ำ บางคนก็บอกว่า อินเทอร์เน็ต ก็อยู่ในร้านเน็ตไง อย่างนี้ก็มี
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ อินเทอร์เน็ตจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราได้เปิดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเราที่ใช้ในการเชื่อมต่อทั้งหมดแล้วกับคอมพิวเตอร์
เครื่องอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับโปรแกรม Web browser และข้อมูลที่ให้บริการเปิดใช้ของคอมพิวเตอร์เหล่านั้น ว่ามีการนำ
เสนอข้อมูลอะไรและให้บริการในรูปแบบใดบ้าง ซึ่งก็คล้าย ๆ กับการที่เราไปเดินช็อปปิ้งในตลาดสด ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัด ตลาดขายของมือสอง
ตลาดมืด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า อะไรทำนองนี้เป็นต้น ซึ่งภาพในการเสนอตามเว็บไซท์ในอินเทอร์เน็ตมีความหลายหลายมากโดยไม่มีข้อจำกัด
บางที่ก็มีการขายสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ บ้างก็ไม่มีคุณภาพ หรือกระทั่งมีการหลอกขายก็มี อันนี้ต้องระวัง อีกทั้งยังได้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ติดเครื่องกลับมา
อาทิ Virus, Spyware, Bot, Malware, Trojan, Adware เป็นของแถมภายหลังในการเข้าชมเว็บไซท์ หรือดาวน์โหลด ติดไม้ติดเครื่องอีกด้วย รวมทั้งอาจมี
ข้อมูลหรือบริการที่ผิดต่อกฎหมายและศีลธรรมปะปนอยู่ด้วย (ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ) ซึ่งบอกได้ตามเป็นจริงได้เลยว่า ผู้ให้บริการ ISP ไม่สามารถควบคุม
ได้อย่างทั่วถึงแน่นอน ถึงแม้ว่าบ้านเราจะมีกระทรวงที่ทำหน้าที่กำกับดูแลและตรวจสอบอยู่ก็ตาม อีกทั้งยังได้มีกฎหมายออกมาบังคับใช้แก่ผู้ที่กระทำผิดทาง
คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า " พรบ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐" เข้ามาช่วยรักษาความมั่นคงปลอดภัย และป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้น
อันมีผลต่อบุคคลและทรัพย์สินในกรณีที่ก่อให้เกิดความเสียหาย (เอาไว้จะมาอธิบายทีหลัง)
ปัจจุบันเราใช้อินเทอร์เน็ตไปใน ทางบันเทิง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง โหลดบิท
ทางธุรกิจ เช่น การประชุมทางไกล การค้า การพาณิชย์
ทางติดต่อสื่อสาร เช่น การแช็ต อีเมล อาทิ MSN, ICQ, Yahoo, Google, Skyp, Sanook, Window live messenger, IM
และ การรับส่ง SMS, MMS, กับโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการต่าง ๆ ได้แก่ การบริการข้อมูล World Wide Web (WWW), E-Mai., IM Instant Messaging. นั่นเองครับ
เอาล่ะสำหรับฉบับนี้ก็พูดถึงการใช้อินเทอร์เน็ตทำประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านมาพอสมควร ในเรื่องหน้าเราจะมาพูดกันถึง ส่วนประกอบของอินเทร์เน็ตกัน
ว่ารูปร่างของอินเทอร์เน็ตมีหน้าค่าตาอย่างไร และมีอะไรเป็นส่วนประกอบ ถึงทำให้มันถูกเรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" อย่างที่เราเรียก ๆ กัน ฉบับนี้สวัสดีครับ
|