เครื่องถมที่หายไป ?
โดย..คนกล้าแห่งแผ่นดิน
.มีบางคนกล่าวเอาไว้ว่า พื้นที่ทุกแห่ง ที่เราได้เหยียบย่างไปทุกย่างก้าว เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน กาลเวลาได้สั่งสมทุกสิ่งทุกอย่างของมันไว้ลงกับผืนผิวของที่นั้นๆ ซึ่งบางทีมันก็เป็นที่มาของชื่อที่เราได้ยิน หรือที่เราคุ้นเคยนั่นเอง เพียงแต่ว่ากาลเวลาได้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป จนบางทีร่องรอยเก่า ร่องรอยเดิมนั้น ได้มลายหายไปจนหมด
ณ. ริมคลองคูเมืองนอกกำแพงพระนครแถวสะพานเฉลิมวันชาติ เขตพระนคร ของเมืองหลวงประเทศไทยในยามนี้ช่างดูสับสนวุ่นวายเหลือเกิน เต็มไปด้วยรถรา ที่แย่งกันแข่งความเร็วเพื่อให้ได้ไปถึงยังจุดมุ่งหมาย แต่ใครจะรู้เล่าว่า สถานที่แห่งนี้สมัยก่อนมีความเป็นมาอันยาวนานเพียงใด หลายคนอาจจะเคยได้ยินมา หลายคนอาจจะไม่คิดที่จะสนใจ แต่อีกจำนวนมากคงอยากรู้เหมือนกันว่าที่ๆนี้ มีความหลังเพียงไหน
กาลเวลาสร้างชื่อ
บ้านพานถม หรือที่สมัยนี้เรียกกันว่า แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร แค่ชื่อเดียวกันแต่ความจริงแล้วมันได้แตกต่างกันมากพอสมควร แขวงบ้านพานถม ในปัจจุบันได้รวบรวมเอาหมู่บ้านใกล้เคียงเข้ามาอยู่ด้วยกันจำนวนมาก แต่ บ้านพานถม ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเป็นเพียงชื่อหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่มีคนบอกเล่าเอาไว้ว่า ชาวบ้านแห่งนี้ ได้ยึดถือประกอบอาชีพทำเครื่องถมเป็นหลัก แต่ไม่รู้ว่าทำกันมานานตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่มีหลักฐานบันทึกเอาไว้แน่นอน รู้แต่ว่าการทำถมของที่นี่นั้นได้รับเอารูปแบบมาจากพวกที่อพยพมาจากเมืองนครศรีธรรมราช ที่ซึ่งมีการทำเครื่องถมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วประเทศ ถึงเครื่องถมที่เรียกว่า ถมนคร
แม้ในปัจจุบันนิ้สิ่งที่ได้เรียกว่า เครื่องถม ได้หมดไปจากบ้านพานถม เรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุผลทางการค้าขายที่ไม่มีคนนิยมมากนัก และช่างที่นี่ก็ไม่ได้มีฝีมืออยู่ในขั้นดีเยี่ยม เหมือนช่างถมนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นต้นแบบ เช่น น้ำยาถมเป็นสีดำเหมือนสีถ่าน แต่ไม่ขึ้นมันเงา การทำถมก็ไม่เรียบสนิท มักจะเป็น
รูพรุน หรือ
ตามด และสิ่งที่สำคัญก็คือขาดการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จึงทำสิ่งที่ล้ำค่าได้หมดไป
จากอดีตสู่ปัจจุบัน
จากการได้ไปเหยียบย่าง ที่บ้านพานถมซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต ด้วยเหตุผลเพื่อที่จะได้อบไอของกลิ่นน้ำถมในอดีต สิ่งที่ได้ประจักษ์กับตาก็คือ ความเจริญที่ได้เข้ามาสู่พื้นที่แห่งนี้ ไม่ได้ต่างจากที่อื่นในกรุงเทพฯสักเท่าไหร่ บ้านช่องต่างๆซึ่งทำด้วยปูนได้ถูกสร้างขึ้นมามากมาย ไม่เหลือเค้าโครงเดิมที่มันควรจะเป็นหมู่บ้านทำเครื่องถมที่มีชื่อเสียงแแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เมื่อได้ก้าวเดินดูจากซอยๆหนึ่ง สู่ถนนหลากสายจนรอบๆ จนทั่ว ก็ไม่เห็นมีการขายเครื่องถมแต่อย่างใด มีแต่ร้านขายของทั่วไปอย่างเช่น ร้านขายอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ หรือเซเว่นอีเลฟเว่น ฯลฯ ที่เราสามารถเห็นจนชินในพื้นที่ทั่วไปในกรุงเทพฯ และน่าจะเป็นอาชีพที่พวกคนแถวนี้น่าจะยึดเป็นสิ่งที่เลี้ยงชีพด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้นว่า เครื่องถม ได้หายไปจากที่นี่ค่อนข้างแน่นอน
มันหายไปแล้วจริงเหรอ ?
เพื่อที่ให้มั่นใจมากขึ้น การถามผู้ที่อยู่ในพื้นที่น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการหาข้อมูลที่แท้จริง หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินหาเองอยู่นาน จึงนั่นพักหาอะไรกิน จริงอยู่ร้านขายอาหารแถวนั้นมีอยู่เยอะ แต่อะไรจะเทียบเท่าร้านอาหารตามสั่ง(เพราะมันถูกเงิน) ริมถนน พอจัดแจงหาอะไรยัดเข้าท้องตัวเองแล้ว จึงเริ่มแปลงร่างเป็นนักสืบหาข้อมูลที่ต้องการ
นั่น ! ใช่เลย เป้าหมายที่ต้องการ
ชายอายุราวๆใกล้เคียงกัน ที่กำลังนั่งรอสั่งข้าวคือเป้าหมายแรก หลังจากสอบถามเรียบร้อยจึงรู้ว่าเขาคือคนในพื้นที่ซึ่งเรากำลังต้องการพอดี
ปัจจุบันไม่มีอะไรเกี่ยวกับเครื่องถมขายเลย ที่นี่กลายเป็นถิ่นสำหรับพวกแม่ค้าหาบเร่ที่ขายของย่านบางลำพู มาเช่าบ้านแถวนั้นอยู่หมดแล้ว พวกช่างทำพานถม ล้มหายตายไปหมด ลูกหลานไม่มีสืบทอดต่อ
คุณจะหาไปทำไม จะซื้อเหรอ มันไม่มีแน่นอน
ชายที่ชื่อว่า
จีน ได้บอกเรื่องราวที่ตนพอรู้จากประสบการณ์ที่ตนเองเป็นคนในพื้นที่เอง และจากปากคำที่เคยโดนเล่าจากแม่ของเขา ที่อยู่มาก่อนเขาที่นี่นานเกือบ50ปีให้ได้รู้
พอได้ทราบข้อมูลที่หลั่งไหลเข้าหัวสมองจนทราบแล้วดังนั้น จึงเดินออกมาโดยไม่ลืมจ่ายเงินค่าข้าวและกล่าวขอบคุณชายหนุ่มที่ชื่อว่า จีน (ก่อนออกมาหันไปดูพี่แกสักพัก โซ้ยข้าวใหญ่ คงนึกด่าผมในใจคนจะกินข้าวมาวุ่นวายอะไรนักหนา)
เขาว่ากันว่าพยานคนเดียวศาลฟังไม่ขึ้นก็คงจริง ผมเลยต้องเดินหาพยาน โดยการถามเขาต่อไปเรื่อยๆ เลือกเอาเฉพาะคนที่ค้าขายโดยทั่วไป เพราะเขาน่าที่จะอาศัยอยู่แถวนี้
มันไม่มีหรอกพ่อหนุ่ม แม่ค้าขายผลไม้บอก
เท่าที่รู้ไม่เคยเห็น อาแป๊ะแก่ๆพูดให้ฟัง
สิ่งที่ได้ยินและได้รับฟังจากปากของทุกๆคนจนเต็ม 2 เบ้าหู มันทำให้ผมมั่นใจแล้วว่าสิ่งที่ผมตามหา (ผมเรียกเล่นๆของผมว่า โครงการหาเครื่องถมสุดขอบฟ้า) มาเกือบทั้งวัน คงสูญพันธ์ไปจากถิ่นที่มันเคยอยู่แล้วจริงๆ
แต่จากที่ได้ถามมาหลายๆคนทั้ง จีน แม่ค้าขายผลไม้ และ อาแป๊ะ ฯลฯ ทำให้รู้สึกได้ว่า ผู้คนที่นี่ก็พอจะรู้ความเป็นไปเป็นมาของชื่อสถานที่ บ้านพานถม ซึ่งเป็นที่อาศัยอยู่เหมือนกัน หลายคนแสดงทัศนคติเกี่ยวกับการทำเครื่องถม อันเป็นสิ่งที่เคยมีมาในอดีตในที่แห่งนี้ว่า ใจจริงของพวกเขาก็คงไม่อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่าง มันหายไปตามกาลเวลา แต่ทำยังไงได้ทุกสิ่งมันก็ต้องมีเกิดและดับสลายเหมือนกัน นอกจากว่าจะมีทางราชการมารื้อฟื้นให้เป็นที่อนุรักษ์สำหรับอนุชนรุ่นหลังเท่านั้นเอง
ย้อนคิดก่อนจาก
เดินมาทั้งวันจึงมานั่งพักเหนื่อย หาน้ำข้างทางกินเย็นๆ พาลให้ชวนคิดไปว่า สิ่งต่างๆมันช่างอนิจจังดีแท้ (ว่าแล้วกะจะไปบวชสักหน่อย) แม้ทุกอย่างจะเคยยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงในอดีต พอถึงเวลามันก็คงต้องล่มสลายไปตามกาลเวลาจริงๆ แม้แต่
บ้านพานถม ถิ่นที่เคยเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงทางด้านการทำเครื่องถมในกรุงเทพฯ มาก่อนในอดีต ยังเรื่อยแค่เพียงชื่อเลย เปรียบกับคนเราก็คงเป็นเหมือนกัน ถ้าเราหมั่นทำความดีไว้ แม้ตัวจะสลายไปตามกลาเวาแล้ว ก็ยังมีคนจำชื่อเราไว้ได้ตลอดไป
.
@@@@@@@