HR Contribution
ในสภาพการณ์ของสังคมที่ความรู้เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด และเป็นสิ่งจำเป็นของการเรียนรู้เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับหน้าที่การงานและชีวิต ในฐานะที่ผู้เขียนทำงานในสายงานบริหารทรัพยากรบุคคล จึงขอฝากเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำงานไว้ให้ได้เรียนรู้กัน ทั้งผู้เขียนและท่านผู้อ่าน ในลักษณะเรียนรู้ร่วมกัน สรรค์สร้าง HR เพื่อความเป็นมืออาชีพนะครับ....
ภายหลังจากที่ไปทำการสัมภาษณ์งานมาแล้ว เรื่องหนึ่งที่คนทำงานทั้งหลายมักอยากรู้มักได้แก่
- ได้งานทำหรือเปล่าน้าที่ไปสมัครเนี่ย !
- เราตอบคำถามสัมภาษณ์ดีหรือเปล่า
- กลัวว่าจะไม่ได้งานจัง ถามย๊าก ยากส์
- ......... ทำนองนี้ เป็นต้น
แล้วหากบางที สมมตินะ สมมติว่า คุณสมัครและสัมภาษณ์มาตั้งนานแล้ว ยังไม่เรียกทำงานสักที หรือ คุณได้ไปสัมภาษณ์งานกับองค์กรอีกแห่งหนึ่งแล้ว เค้าตอบรับคุณกลับมาแล้ว คุณก็คิดจะได้ร่วมงานกับเค้า หรือหลังจากการสัมภาษณ์ คุณประเมินแล้วว่า สภาพแวดล้อมการทำงาน บรรยากาศในสถานที่ทำงาน สังเกตจากการไปสัมภาษณ์นี่ล่ะ หรืออะไรต่าง ๆ ก็ตามแต่ที่คุณตัดสินใจแล้วล่ะว่า ถึงได้งานก็ไม่ไปทำ คุณควรทำอย่างไร ?
โปรดฟังทางนี้ครับพี่น้อง......
ผมมีคำแนะนำ 3 อย่างที่คุณควรจะต้องหลีกเลี่ยงหลังการสัมภาษณ์งานและคุณก็ไม่สนใจจะไปทำงานกับบริษัทที่สัมภาษณ์ไปแล้ว
1. อย่าทำให้ชาวบ้านเสียเวลา ผมไม่ได้หมายถึงชาวบ้านที่เดินตามถนนหรือตลาดหรอกครับ ในที่นี้ก็คือ หากคุณจะไม่ทำงานกับเค้าเพราะไม่สนใจแล้วหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็ส่งอีเมล์ไปบอกอย่างสุภาพให้เห็นว่า คุณได้รับการตอบรับจากที่ทำงานที่สมัครมาก่อนหน้าแล้ว ไม่น่าเกลียดอะไรครับ แต่เหตุผลที่ไม่สมควรจะพูดได้แก่ คุณเห็นว่า คุณลักษณะส่วนตัวอาจจะเข้าไม่ได้กับวัฒนธรรมหรือค่านิยมขององค์กรจากที่ได้เห็น หรือเรียกว่า ไม่ฟิต กันนั่นเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณไม่มืออาชีพ ไม่ได้ศึกษาองค์กรของเค้าก่อนหน้านี้ แล้วไม่เสียเวลาสัมภาษณ์แบบที่คุณเองก็ไม่ใช่ เป็นต้น แต่ไม่ว่าคำตอบที่คุณให้จะเป็นแบบใด ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย หรือไม่ให้เกียรติกันนะครับ
2. อย่าได้ตามจี้ติด คำนี้ภาษาอังกฤษใช้ว่า don t nag for results ไม่แน่ใจว่าจะสื่อความถูกหรือเปล่า.... ผมหมายความว่า หากสัมภาษณ์ไปแล้วก็อย่ารีบร้อนไปครับ ควรเข้าใจก่อนว่า กระบวนการในการรับสมัครและสัมภาษณ์นั้น ใช้เวลาไม่น้อย อาจจะหนึ่งเดือนหรือสองเดือน ขึ้นอยู่กับความสำคัญของตำแหน่งงาน การนัดหมายผู้สัมภาษณ์ที่มักจะเป็นผู้บริหารขององค์กร และความต้องการเปรียบเทียบคุณสมบัติและคุณลักษณะส่วนอื่นของผู้สมัครงานให้ตรงกับที่องค์กรต้องการมากที่สุด หากคุณจะติดตามสอบถามความคืบหน้าของผลการสัมภาษณ์ หากรอสักสองหรือสามสัปดาห์หลังสัมภาษณ์แล้วคุณไม่ได้ข่าวคราวอะไร ค่อยตามสอบถามกับ HR คนที่ประสานงานสัมภาษณ์ ก็ไม่น่าเกลียดครับ
3. อย่าปฏิเสธอย่างไม่เป็นทางการ หรือคุยแค่ทางโทรศัพท์ ผมว่าโดยมารยาทแล้ว เวลาสมัครงานเราก็ส่งเอกสารหลักฐานกันเป็นเรื่องเป็นราว เวลาจะปฏิเสธโดยมารยาทที่สมควรอย่างที่ผมว่าไปในข้อแรก การทำแบบนี้ สื่อให้เห็นถึงมารยาทที่ดีครับ การที่ต้องนำข้อนี้มาเน้นต่างหาก เนื่องจากผมเองในฐานะที่ดูแลงาน recruit พบว่า เวลาสัมภาษณ์เสร็จแล้ว หลังจากที่เราสรุปเรื่องเสร็จ โทรมาฝากเรื่องบอกกับ HR ว่าไม่มาทำงานแล้วนะ เพราะ...... เป็นแบบนี้ สงสาร HR ที่ต้องมานั่งเริ่มนับหนึ่งใหม่ ส่วนคุณเองนั้น ดีไม่ดี โดน blacklist ว่าเป็นผู้สมัครงานที่ขาดความรับผิดชอบในแวดวง HR แบบนี้ งานเข้า เลยนะครับ
สิ่งที่ผมถ่ายทอดประสบการณ์ไปนี้ ท่านทั้งหลายที่ได้ไปสัมภาษณ์งานมาแล้ว น่าจะได้ทดลองนำไปใช้หากมีสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้จริง
ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต
Professional Human Resources-PHR
ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
บจก.กรุงไทยธุรกิจบริการ
E-Mail : [email protected]
Blog : http://chatchawal-ora.blogspot.com/
|