วิวัฒนาการของมนุษย์ มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยลำดับ สิ่งต่างๆ รอบตัวเราย่อมเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเช่นกัน เพื่อให้ทันต่อวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปทุกเสี้ยววินาที การสรรหาคัดเลือกบุคลากรของแต่ละหน่วยงาน ย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปให้ทันต่อกาลเวลา เราไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ได้ เพราะการที่เราหยุดอยู่กับที่ ไม่ก้าวเดินไปข้างหน้าให้ทันกับเทคโนโลยี กลับกลายเป็นว่าเรากำลังเดินถอยหลัง และจะยังล้าหลังไปเรื่อยๆ หากนักบริหารงานบุคคลไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี หรือไม่ยอมไปคบกับ IT ไม่แตกต่างไปจากการที่คนกำลังวิ่งถอยหลังไปสู่อดีตซัก 50-100 ปี นักบริการงานบุคคลยุคใหม่จึงต้องรู้จักการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการสรรหา วิเคราะห์ ประมวลผล เพื่อหาผู้สมัครงานที่ตรงความต้องการขององค์กร เพื่อผลักดันให้องค์กรมุ่งไปสู่แนวหน้า และต้องเป็นแถวหน้าของกลุ่มธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น เพราะยิ่งองค์กรได้บุคลากรที่มีศักยภาพมากเท่าใด ย่อมกระตุ้นหรือผลักดันให้องค์กรได้เดินไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นเท่านั้น

"รู้เขารู้เรามีชัยชนะไปกว่าครึ่ง" ในเมื่อผู้สมัครงานรู้ว่าผู้คัดเลือกต้องการอะไร  แล้วถึงเวลาหรือยังที่เราจะกลับมานั่งสำรวจตัวเองว่าเรามีความพร้อมเพียงใด ใช้อินเตอร์เน็ตได้หรือไม่ กรอกใบสมัครภาษาอังกฤษเป็นหรือยัง แล้วส่วนอื่นๆ ล่ะ เอกสารต้องสะอาดเรียบร้อยสมบูรณ์และครบถ้วน อย่าลืมว่าเราอยู่ในเมืองไทย ดังนั้นอย่าทิ้งของดีของไทย ตั้งแต่การแต่งกาย กริยามารยาท การไหว้ทำความเคารพผู้ใหญ่ การพูดจาฉะฉานขณะสัมภาษณ์ เราต้องมีความพร้อมทั้งเอกสารและพร้อมทั้งร่างกาย  ถ้าเรามีพร้อมทุกอย่างในขั้นพื้นฐานอย่างนี้แล้วงานดีๆ ที่รอเราอยู่ข้างหน้าจะไม่เป็นของเราได้อย่างไร