หน้าแรก เขียนใบสมัครงาน ลงโฆษณางาน ค้นหาใบสมัครงาน คู่มือการใช้งาน Menu

สนใจลงโฆษณา โทร. 02-275-1900, 02-612-4900, 038-395000

space
   ค้นบ่อย : หางานบัญชี, หางานธุรการ, หางานจัดซื้อ, หางานผู้จัดการ, หางานขับรถ, หางานบุคคล, หางานคลังสินค้า, หางานครู, หางานวิศวกร, หางานเขียนแบบ, หางานคีย์ข้อมูล, หางานการตลาด, หางานโรงแรม, หางานสิ่งแวดล้อม, หางานคอมพิวเตอร์, หางาน Programmer, หางานประชาสัมพันธ์, หางานช่าง, หางานสถาปนิก
เรื่อง เรื่องสั้น กีฬาโปรด
เขียนโดย ประเสริฐ

Rated: vote
by 6 users

คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?

 




 

ราวหกโมงเย็น ผมและเพื่อนอีกหลายคนต่างพากันเดินทะยอยจากโรงเรียนกลับเข้าบ้าน หลังจากที่เล่นฟุตบอลเสร็จ วันนี้ค่อนข้างที่จะเลิกเล่นเร็วกว่าวันก่อนๆ  เนื่องจากสภาพจิตใจของทุกๆคน ไม่สู้พอที่จะเล่นจนถึงค่ำมืด บรรยากาศครึ้มๆ สลัวๆ ของวันนี้ คงจะเหมือนกับค่ำวานนี้อีกไม่มีผิด เป็นเพราะเหตุผลใดนั้น ทุกๆ คนไม่กล้าที่จะคิดไม่กล้าที่จะกระซิบบอกเพื่อนคนข้าง ๆ ได้แต่เงียบกริบรีบเร่งฝีเท้า ก้าวเข้าให้ถึงบ้านก่อนที่ความมืดจะพลางตา ประจวบเหมาะซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาวอยู่แล้ว อากาศก็เริ่มกลั้นเอาความเย็นเหยือกออกมาถี่ๆ ยามหัวค่ำช่วงนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นยามดึกสงัดของเที่ยงคืนไปโดยปริยาย เหตุการณ์ วิกฤตการณ์ ที่ต่างคนต่างทราบ ก็ยิ่งเพิ่มให้หวาดหวั่นเข้าไปอีก เมื่อรวมกับบรรยากาศในยามหน้าหนาวเข้าไปสมทบ

                ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้พบเจอกับเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายวานนี้อย่างเจาะลึกเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่วินาทีแรกจนกระทั้งถึงวินาทีสุดท้าย ภาพต่างๆ ผมจำได้ถนัดชัดเจนเต็มลูกกระตาทั้งสอง สภาพร่างกายที่ไม่มีชิ้นดี กระดูกทุกส่วนคงจะแตกหัก ไหนจะเลือดที่ไหลนองเต็มพื้นถนนลูกรังในบริเวณนั้น ทั้งออกทางปากทางจมูก และรูหู หนังตาที่เบิกกว้างไม่ยอมปิดลง แม้จะไร้ซึ่งลมหายใจไปแล้วก็ตาม แต่พอตกถึงค่ำคืนนั้นผมรู้สึกเพลียมากประกอบกับใช้บริการยาพาราไปสองเม็ด จึงทำให้ผมหลับตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืดครึ้ม เป็ดไก่ยังไม่ทันเข้ารกเข้าเล้าเลย ผมจึงยังไม่รับรู้ ความเป็นไปของสิ่งต่างๆ ในคืนวันนั้นนัก ทั้งที่บ้านผมเองก็อยู่ห่างจากที่บริเวณตรงนั้นแค่ห้าสิบเมตร

                ถนนสายนั้นเป็นถนนสายตัดไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งต้องผ่านหน้าโรงเรียน บ้านของผมอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ทุกๆ เย็นเหล่าเพื่อนฝูงเด็กวัยรุ่นวัยเรียนในหมู่บ้านก็จะพากันออกมาเล่นฟุตบอลกันเป็นประจำ กว่าจะเลิกได้ก็ค่ำมืดถึงกับมองไม่เห็นลูกฟุตบอลโน้นแหละ ทุกคนจึงจะแยกย้ายกลับเข้าบ้าน แต่วันนี้ต่างฝ่ายต่างพร้อมใจกันกลับบ้านแต่หัวค่ำแบบไม่ได้นัดหมาย ดูสภาพบรรยากาศแล้ว น่าที่จะเข้านอนเอาผ้าห่มคลุมหัวมากกว่าเป็นไหนๆ มันวังเวงน่ากลัวอย่างไงบอกไม่ถูก ผมเดินข้ามถนนเพื่อที่จะกลับเข้าบ้านซึ่งไม่ไกลนัก หลังจากที่แยกจากกลุ่มเพื่อน หัวใจของผมเริ่มกระตุกแรงขึ้น ภาพต่างๆ ในวันนั้นเริ่มไหลเวียนเป็นบทๆ เป็นฉากๆ ให้ผมสยดสยองขึ้นมาทันควัน ผมเหลือบมอง ณ ตรงนั้นแวบนึ่ง ขนแขนของผมก็ตั้งโด่พรวดขึ้นเหมือนถูกสั่งบังคับ เท่านั้นเองผมไม่ชักช้ารีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินมุ่งไปยังบ้าน โดยไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลย

---------..--------

                ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งกินข้าวกับแม่สองคน ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มา สี่ห้าวันแล้วเพราะพ่อไปธุระที่ต่างจังหวัดยังไม่กลับ แม่เล่าให้ผมฟังขณะที่กำลังกินข้าวว่า  เมื่อคืนวานนี้แกนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนกว่าจะหลับได้ก็ราวๆ ตีหนึ่งตีสอง เพราะมีเสียงหลายๆ เสียง ดังวนเวียนไปมา  แถวๆ บริเวณหน้าโรงเรียน ทั้งเสียงหมาที่เห่าหอนอย่างโหยหวนนานเกือบๆ ชั่วโมง ไหนจะเป็นเสียงนกที่ร้องโวกเวกบนต้นไม้ใหญ่ตรงถนนสายนั้นผสมผสานกันไป และที่สำคัญแม่บอกว่า แกได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเล่นฟุตบอลดังอยู่ตรงนั้นด้วย พูดถึงตรงนี้ผมถึงกลับตัดบทบอกให้แม่ไม่ต้องเล่าต่ออีกแล้ว เพราะร่างของผมเหมือนจะเป็นไข้จับสั่นขึ้นมาทีละนิดๆ มันสยิวหวาดกลัวขึ้นทุกที ผมเชื่อว่าแม่คงจะพูดจริงไม่ได้โกหกผม แม่เป็นคนไม่กลัว….อย่างว่าอยู่แล้ว แกจึงไม่มีปฏิกิริยา ท่าที หวาดกลัวแสดงออกมาให้เห็นสักนิด  ซึ่งตรงกันข้ามกับผมจริงๆ

                เสร็จจากกินข้าว ก็ราวๆ สองทุ่มเศษ ผมก็เริ่มมีอาการเสียวสันหลังขนลุกวูบขึ้นมาอีก เมื่อแม่สั่งให้ผมไปซื้อยาแก้ปวดมาให้ ซึ่งร้านค้านั้นก็อยู่ค่อนข้างไกลจากบ้านของผม โดยเฉพาะที่สำคัญยิ่ง ผมต้องผ่านเส้นทางสายนั้นและตรงนั้นด้วย  ผมทำท่ารุกรี้รุกรนทำสีหน้าคล้ายอยากจะบอกแม่ว่า "พรุ่งนี้เช้าค่อยไปซื้อไม่ได้เหรอแม่ "

แต่ผมเพ่งมองดูสีหน้าท่าทางของแม่แล้วแกคงจะปวดหัวจริงๆ ผมจึงต้องจำใจกัดฟันฝืนทำทีใจกล้า ทั้งที่ออกกลัวแสนกลัว”เอาวะ ถึงตรงนั้นหลับตาผ่านก็ได้” ผมบอกกับตัวเองภายในใจ โดยไม่คาดคิดคำตอบว่า ถ้าเวลาลืมตาล่ะ.. อะไรจะเกิดขึ้น ผมเดินออกจากบ้านพร้อมจูงจักรยานคู่ใจคันเก่า ที่อยู่เคียงคู่กับมันมาตั้งแต่แขนขาผม

ถลอกเป็นแผลเล็กแผลน้อยเมื่อครั้งสมัยที่หัดขี่มันใหม่ๆ แต่ทุกวันนี้ปล่อยมือขี่ได้สบายๆ อากาศเย็นหนาวเยือก  โหมเข้ามาถี่ๆ ตามแรงสายลมที่พัดโบกเข้ามา ผมมองดูต้นไม้สูงใหญ่หลายต้นจ็จ็แถวหลังอาคารเรียน โยกสะบัดไปมาซ้ายขวา คล้ายกับว่ามีคนบอกจังหวะบอกทำนองอยู่เบื้องหลัง ซ้ำร้ายสภาพเบื้องบนของท้องฟ้า ก้อนเมฆยังให้แสงอันน่าพิศวงไม่ชวนชมจะมืดเกินก็ไม่ใช่จะสว่างไปก็ไม่เชิง  ผมก้าวขึ้นนั่งบนรถจักรยาน หลังจากที่จูงมันออกมาถึงถนน ผมมองออกไปเบื้องหน้า ผนังตาก็ถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว คิดในใจว่าอยากจะหลับตาตั้งแต่ตรงนี้ แต่พื้นถนนมันช่างสวยงามเอาซะเหลือเกิน ขนาดตอนกลางวันแสกๆ ยังแทบจะหลบหลีกหลุมเล็กหลุมน้อยไม่ทัน แล้วจะมานับประสาอะไรกับตอนกลางคืนเช่นนี้  ไฟฟ้าตามถนนก็ยังไม่มีงบประมาณจะฟลุ๊กมาถึงสักที คงต้องรอรัฐบาลยุคต่อไปโน้นแหละ   ยังดีแสงไฟนีออนสองสามหลอดของบ้านที่อยู่ข้างหน้ายังทอแสงเรืองๆ ให้เห็นวับๆ ถึงแม้จะไกลไปสักนิด แต่ก็ยังทำให้ผมอุ่นใจขึ้นมาบ้าง

                ล้อหน้าเคลื่อนจากช้ากลายเป็นความเร็วทุกขณะผมพยายามบังคับมันอย่างเต็มที่ ถึงแม้บางครั้งมันเกือบๆ จะเสียหลักล้มก็ตาม แต่ขออย่างเดียว ให้ผ่านบริเวณข้างหน้าที่จะถึงนี้ให้ได้ซะก่อน แล้วมันจะล้มมันจะพังก็ช่างมัน ผมหลับตาสนิท เมื่อรถจักรยานวิ่งไปถึงตรงนั้น อึดใจเดียวช่วงวินาทีแห่งความเสียววาบของยกแรกก็ดูเหมือนจะพ้นผ่านไปด้วยดี ผมค่อยๆ คลี่เบิกตาออกทีละนิด  ถอนหายใจยาว อย่างโล่งอกปลอดโปร่ง โชคดีมากที่ผมยังสามารถบังคับรถไว้ได้อีกครั้ง เพราะช่วงนั้นรู้สึกว่ารถมันจะสะดุดกับ..สงสัยจะเป็นก้อนหิน “ช่างเถอะ..ไม่อยากคิด” ผมผ่านจากตรงนั้นมาสักครู่ก็พบแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าของบ้านที่อยู่ถัดจากริมถนนเข้าไปอีกก็ประมาณสักยี่สิบเมตร ผมภาวนาในใจว่าขากลับขออย่าให้เจ้าของบ้านรีบปิดไฟเลย ขอให้ผมกลับมาถึงก่อนเถอะ เท่านั้นเองผมรีบเร่งปั่นจักรยานไปให้ถึงร้านค้า อย่างเร็ว

--------------….---------------

ผมต้องเสียเวลาอยู่ที่ร้านค้าเกือบสิบกว่านาที เพราะมัวชุลมุนวุ่นวายกับการหายาแก้ปวด ที่แม่สั่ง เนื่องจากเจ้าของร้าน สองสามีภรรยาไม่อยู่บ้าน  ไปธุระยังไม่กลับ ทิ้งเพียงลูกชายกับลูกสาวสองคนเฝ้าดูร้าน ลำพังพี่สาวก็พอจะรู้สิ่งของสินค้าต่างๆ ภายในร้านอยู่หรอก แต่เธอดันไปอาบน้ำกว่าจะเสร็จ ก็คงนาน  ผมจึงต้องผงกหัวเข้าตรงนั้นทีตรงนี้ทีกับไอ้โชควัยห้าขวบ เพื่อค้นหายาแก้ปวดขนานที่ต้องการ ผมเองยังไม่รู้เลยว่า ยาที่แม่สั่งเป็นซองลักษณะอย่างไร รู้แค่เพียงชื่อของมันเท่านั้น ครั้นจะให้เด็กวัยห้าขวบรู้มันก็คงจะเป็นไป

ไม่ได้  สุดท้ายโชคก็ยังพอมีอยู่บ้าง แต่กว่าจะหาเจอได้ก็ทำเอาผมตาแทบลายเหมือนกัน ภายในใจมันยิ่งร้อนรนกระวนกระวายอยู่แล้ว ก็ดันมาเจอกับเรื่องที่ดูจะยึดเยื้อเข้าไปอีก ทั้งที่ต้องการทำเวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

                ผมเบิ่งออกจากร้าน คำนวณดูเวลาก็คงจะเกือบๆสามทุ่มแล้ว เพราะตอนที่ออกจากบ้านก็เห็นจะสองทุ่มครึ่งได้ ขากลับผมสังเกตุดูมันช่างวังเวงเงียบเชียบมากว่าตอนขามาเป็นสองเท่า ไฟฟ้าตามบ้านเรือนในหมู่บ้านก็ริบแสงจนเกือบจะหมดอยู่แล้ว สองสามทุ่มในช่วงหน้าหนาวนี้มันดึกเอาการทีเดียว ผู้คนก็เข้านอนกันแต่หัวค่ำ มันจึงไม่แปลกเลยที่ผมจะสะสมเอาความหวาดกลัวเพิ่มเข้ามาอีก

                ผมปั่นจักรยานจนมาถึงทางแยก ก็เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางที่ผมไม่ปารถนาจะผ่านเลยสักนิด แสงไฟที่ผมคาดหวังให้เปิดทิ้งไว้ก่อนหน้า กลับไม่เป็นใจทิ้งแสงสว่างรอให้ผมเลยสักหลอดเดียว มันจึงยิ่งมืดเข้าไปอีก เห็นลางๆ ก็เพียงพื้นถนนลูกรังสีขาว เป็นบางจุด ที่แสงบาง ๆ สาดลงมากระทบ เป็นบางครั้ง  นอกนั้นหันมองไปทางไหน เห็นแต่ความหน้าหวาดกลัวที่คล้ายกำลังแอบซ่อนเร้นอยู่  เหลืออีกประมาณหนึ่งร้อยเมตร จะถึงบ้านและก็เหลืออีกห้าสิบเมตรเท่านั้นที่จะถึงตรงที่ผมไม่พึงประสงค์ เสียงหมาเริ่มเห่าหอนขึ้นมาติดๆ กันสามสี่ครั้ง ประกอบกับเสียงนกที่กรีดร้องบนต้นไม้ใหญ่ ผมชักจะเชื่อคำพูดของแม่ที่เล่าให้ฟังอย่างสนิทก็คงเวลานี้ แต่มันน่าแปลกมาก เสียงหมาที่ร้องโหยหวนนั้น ฟังเหมือนดังอยู่ใกล้ๆ ข้างๆ ครั้นผมสอดสายตามองหา กลับไม่เห็นหมาแม้สักตัวเดียว “เอาล่ะโว๊ย”  ผมอุทานในใจ เกิดมาเรื่องผีเรื่องวิญญาณเรื่องน่าหวาดกลัวต่าง ๆ ผมไม่เคยที่จะประสบพบเลยสักครั้ง หรือมันจะเป็นวันนี้ ผมสลัดความคิดออกไป ทันใดนั้นผมถึงกับยิ้มออก รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งกำลังวิ่งมาจากข้างหน้า แสงไฟนั้นมันทำให้ผมหายเหนื่อยจากความกลัวลงได้บ้าง ผมกำเบรก ลดความเร็วของรถจักรยานลง เพื่อกะรอให้มอเตอร์ไซด์คันนั้นวิ่งมาสวนทางกับผมตรงจุดสยองตรงนั้นพอดี แต่ผมชักฉงนใจขึ้นเรื่อยๆ รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นวิ่งช้ามาก คล้าย ๆ กับว่าวิ่งอยู่ที่เดิม และยิ่งไปกว่านั้นเสียงรถกับแสงไฟหน้าค่อยๆ ดับลง ๆ ไปทุกขณะ จนในที่สุด มันก็หายวับไป ผมสะดุ้งสุดขีด จนรถจักรยานแทบล้ม สติสมาธิของผมเหมือนฟุ้งกระจาย กระเจิดกระเจิงลอยออกไปจากร่างหมดแล้ว มันแผ่วเบาคล้ายมีสิ่งเข้ามายึดคลุ้มร่างทั้งร่างของผมเอาไว้ ผมรู้แน่ชัดแล้วว่าตอนนี้ผมเจออะไรเข้าแล้ว ขาทั้งสองของผมเหมือนจะไม่ทำงานเอาดื้อๆ ทั้งที่พยายามอยากจะเร่งปั่นจักรยานให้เร็ว พอผมมาถึงตรงจุดนั้นหูก็ได้ยินเสียงประหลาดเข้ามาอีก มันเป็นเสียงคนเดาะลูกฟุตบอล ดังมาจากสนามฟุตบอลในโรงเรียน  ซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือติดกับถนน  ผมตัดสินใจหันไปมองทั้งที่ฝืนความรู้สึก

“ให้มันรู้ไปเลยละกันว่าอะไรเป็นอะไร”

ผมเห็นเงาดำๆ คล้ายคนกำลังเดาะฟุตบอลอยู่คนเดียว บางครั้งก็เตะเข้าประตู บางครั้งก็เลี้ยงวนไปมา และที่ผมสยิวสุดๆ ร่างนั้นกวักมือเรียกผมเหมือนเป็นการชักชวน ผมตวัดหน้ากลับมาอย่างเร็ว เหมือนจะเป็นลมหน้ามืดช็อคเอาดื้อๆ หัวใจคล้ายกับว่าจะหยุดเต้น  ตอนนั้นผมเหมือนคนบ้าไม่มีผิด  สติของผมฟื้นกลับมานิดนึ่ง เมื่อมองเห็นหญิงผู้คุ้นเคยยืนอยู่ริมถนนตรงหน้าทางเข้าบ้าน ผมทิ้งจักรยานลงทันที วิ่งผวาเข้าไปกอดแม่อย่างกับไม่ได้เจอกันมาแรมปี ร่างผมยังสั่นระริกไม่หาย แม่โอบกอดผมไว้แน่นแกคงจะรู้และเข้าใจเหตุการณ์ที่ผมได้ประสบเจอในตอนนั้น แม่พาผมเดินเข้าบ้าน แต่แขนทั้งสองยังโอบประคองผมไว้ตลอด คืนนั้นผมต้องนอนกับแม่ที่ห้อง ภาพนั้นเสียงนั้นรู้สึกจะหลอกหลอนผมอีกตลอดทั้งคืน แต่ในที่สุดผมก็เผลอหลับไปจนได้

-----------…….-------------

รุ่งเช้าผมเหมือนได้เจอโลกสวรรค์ใบใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ได้ตกเหวนรกไปในชั่วข้ามคืน แต่อาการหวาดผวานั้นยังคงจะไม่จางหายไปง่ายๆ แน่  ประมาณเที่ยงแม่ได้ข่าวมาเล่าให้ผมฟังว่า เด็กวัยรุ่นคนที่ตายนั้นเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอลมาก วิญญาณแกคงยังต้องการและยังผูกพันธ์อยู่กับฟุตบอลอยู่จนไม่ไปไหน แต่วันนี้ชาวบ้านคงจะนิมนต์พระมาทำพิธีกรวดน้ำไปให้แก ผมได้ฟังแม่พูดจนจบ ก็เพิ่งจะรู้วันนี้เองว่าเด็กคนที่ตายนั้นชอบเล่นฟุตบอล ซึ่งที่ผ่านมาผมรู้เพียงว่าแกเป็นคนชอบดูเท่านั้น เพราะทุก ๆ เย็น ผมจะเห็นแกมานั่งดูพวกผมและเพื่อน ๆ เล่นเกือบทุกวัน น่าเสียดายที่แกต้องมาจบชีวิตที่หมู่บ้านของผม แกเป็นคนอีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่มีเพื่อนที่หมู่บ้านของผมเยอะ  ซึ่งวันที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ผมทราบมาว่าแกเมามาก ผมก็ไม่รู้ด้วยสาเหตุเรื่องอะไร รถมอเตอร์ไซค์ที่แกขับมาด้วยความเร็ว พุ่งเสียหลักล้มอย่างแรง ถึงกลับตายคาที่ ผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ผมเจอเมื่อคืนอีกครั้ง นึกในใจว่า ผมน่าจะชวนแกเล่นฟุตบอลเมื่อครั้งที่แกยังมีชีวิตอยู่  แกจะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายมาชวนผมเล่นในยามดึกสงัดอันสยดสยองเช่นนั้น ------------จบ----------

 




ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้ ...

 

user_icon

Knowledge Center
knowledge center
knowledge

star

การปลูกกล้วยไม้ (ฟื้นเศรษฐกิจไทยด้วยการเกษตร)
 
เรื่องน่ารู้ตามหมวดหมู่
• การแพทย์
• ความรู้ทั่วไป
• เรื่องของผู้หญิง
• กีฬา
• ข่าวและสื่อ

และอื่น ๆ อีกมาก

  ค้นหาเรื่องที่คุณสนใจ
ระบุ keyword
 
True vision

TV Icon

TV Interview

หลากเรื่องราวทางธุรกิจ แง่มุมของผู้บริหาร จากบริษัทชั้นนำต่างๆ

dot
HR Corner
สัมภาษณ์คัดเลือกผู้สมัครงานอย่างไร? ให้ตรงสเป็ค
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
The Seeds of Innovation นวัตกรรมใหม่แห่งการพัฒนาบุคลากร
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
การสร้างความแตกต่าง ให้เหนือคู่แข่ง
คุณมกร พฤฒิโฆสิต
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
dot

https://www.jobpub.com/new_images/playall_b.gif

 

หางานบ่อย : งานว่าง นวนคร จ-ศ ปวช วุฒิ ปวช.ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่คลังสินค้า วุฒิม.3 พยาบาลสุวรรณภูมิ บุคคคลธุรการ ตลิ่งชัน. ธุรการสมุทรสาคร โรงงานผลิตยาง บำรุงรักษา วุฒิป.6 พระราม3 เพชรบุรี พนักงานเคลม วารสาร cathay จ.ป โรงงานบิ๊กแลน ลำเ ลีย ง งานห ้าง สมัครงานวุฒิ ปริญญาตรี บัตรเคดิต เลขานุการ ธุรการ ผลิตปทุม ะ—ะคะ˜ะ—ะŽะ“ งานสำหรับคนจบม.6 โพลีพลาส พนกงาน โรงแรม ภูเก็ต 1z ต่างประเทศดูใบ หางานขับรถ ภูเก็ต เขต บางขุนเทียน-บางกระดี่ พััฒนาการ ฟ เหมราช 2 นวัตกรรม สถานีไฟฟ้าแร บิวทิส หางาน มุกดาหาร เจ้าประสานงานระหว่างประเทศ มัธยมศึกษา 3 พนักงานขับรถประจำบริษัท งานลาดพร้าว101 ขึ้นแบบ wwyupyte ธุรการ หัวหมาก JEWEL EXPRESS CO. LTD. หางาน ในกทม สมัครงานคลินิก สปา ความงาม ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา บางกะปิ 32000 pet