ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
อันตรายของสังคมยุคนี้ ต่อผู้หญิง
เขียนโดย อัญธิกา ปุนริบูรณ์
|
Rated:
by 10 users |
|
|
|
|
คัดลอกจาก "ตามล่ามาเล่า" โดย ประไพพัตร โขมพัตร" นิตยสาร "ดิฉัน"
ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนสถานีตำรวจ เธอก้มหน้านิ่งตลอดเวลา ใบหน้าเธอซีดขาว บางครั้งก็เหม่อลอย แววตาหมดหวัง และบางครั้งหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบตี 2 แล้ว ท่าทางของเธอสะดุดใจผู้หญิงอีกคนซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย จนอดไม่ได้ที่จะหาโอกาสเข้าไปพูดคุยด้วยความสงสัย ผู้หญิงทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เหตุที่ต้องมาอยู่บนสถานีตำรวจในเวลาเดียวกัน ก็เนื่องจากอุบัติเหตุรถชนกัน เป็นการเฉี่ยวชนแล้วพยายามขับหนี แต่ไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้ เธอซึ่งเป็นผู้เสียหาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเมื่อถึงเวลาสอบปากคำอีกฝ่ายหนึ่ง เธอพยายามเข้าไปพูดคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยความสงสัย ตอนแรกคิดว่าอาจจะกลัวหรือตกใจที่แฟนตัวเองพยายามหลบหนี หรือกังวลกับคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จึงบอกว่าถ้าชดใช้ค่าเสียหายก็จะไม่เอาความใดๆ แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างน่าตกใจ พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เป็นอะไรกับผู้ชายคนนั้น ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย อากัปกริยาเช่นนี้ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม และยิ่งทำให้ต้องปลอบโยนเพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ ด้วยความเป็นผู้หญิงด้วยกันทำให้ใช้เวลาไม่นาน เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดออกมา เธอบอกว่ากำลังถูกผู้ชายคนนั้นจับตัวไว้เหมือนกัน
เธอกลัวมากและอายมากและกำลังช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเธอเล่าจบ
ทำให้ผู้ฟังรีบเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมชายคนนั้นไว้ทันที ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้โชคร้าย ความจริงบ้านของเธออยู่ที่จังหวัดนครปฐม ในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับบ้านเป็นเวลา 3 ทุ่ม ก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาชนท้าย ผู้ขี่จักรยานยนต์เป็นผู้ชายคนหนึ่งรีบจอดรถลงมาดูความเสียหาย และขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่ พร้อมทั้งบอกว่าไม่ต้องกังวลจะชดใช้ค่าเสียหายให้ และพร้อมจะไปตกลงที่สถานีตำรวจ ด้วยท่าทางที่สุภาพ นอบน้อม ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัว
และยินดีที่จะไม่เอาเรื่องหากชดใช้ค่าซ่อมรถที่มีรอยบุบเพียงเล็กน้อย ชายคนนั้นบอกให้เธอขับรถตามเข้าไปยังอู่ซ่อมรถที่อยู่ไม่ไกล เพื่อให้ช่างตีราคา และตกลงค่าซ่อม
แต่ระหว่างทางขอนำรถมอเตอร์ไซด์เข้าไปเก็บที่บ้านก่อนเพราะรู้สึกว่าเครื่อง ยนต์เริ่มมีปัญหา เธอก็ขับรถตามไปจนถึงปากทางเข้าบ้านและนั่งคอยอยู่ที่รถ ชายคนนั้นกลับออกมาพร้อมชายคนหนึ่ง เปิดประตูและขึ้นนั่งประกบทันที ดันตัวเธอไปนั่งตรงกลาง ใช้มีดบังคับให้นั่งเฉยๆ และขับรถเขามากรุงเทพฯ
ถึงธนาคารแห่งหนึ่งบริเวณงามวงศ์วานก็จี้ตัวเธอลงไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ได้เงินจำนวนที่ธนาคารกำหนดให้กดจากตู้ในวงเงินเท่านั้น แต่เมื่อเห็นเงินในบัญชียังมีเหลืออีกมาก จึงยังไม่ปล่อยตัวไปง่ายๆ
กันตัวไว้รอเวลาให้เลยเที่ยงคืนแล้วจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอีกครั้ง ในช่วงการรอคอยเวลา ขับรถมาแถวถนนลาดพร้าวเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด และ ผลัดกันข่มขืนเธอหลายครั้ง แล้วก็สั่งอาหารรวมทั้งเบียร์มาดื่มกินในห้องจนมีอาการมึนเมา แล้วก็ข่มขืนอีกจนกระทั่งตี 2 ชายคนหนึ่งจึงขับรถพาเธอมาบังคับให้กดเงินให้อีก โดยให้สัญญาจะปล่อยตัวไปหากได้เงินที่ต้องการแล้ว ยังไม่ทันที่จะถึงธนาคาร
ชายคนนั้นก็ขับรถชนท้ายรถคันหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเสียก่อนแล้วพยายามหลบหนี จนกระทั่งมาถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนที่นอนคอยอยู่ในโรงแรมได้ และพาตัวมาสอบสวน ทั้งคู่รับสารภาพว่าทำอย่างนี้กับผู้หญิงมาแล้วหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะตระเวนมองหารถที่มีผู้หญิงขับเพียงคนเดียว และมักจะหาเหยื่อตามจังหวัดที่อยู่รอบๆ กรุงเทพฯ ผู้หญิงส่วนใหญ่อายไม่กล้าแจ้งความกลัวเสียชื่อเสียง เลยทำให้ยิ่งได้ใจ ผู้หญิงมักถูกล่อลวง ถูกหลอกโกง ถูกปองร้าย โดยเฉพาะที่เปลี่ยว ที่มืด
ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนงานในโรงงานแห่งหนึ่ง เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เธอยังกลับไม่ถึงบ้าน ทั้งๆที่ บ้านกับโรงงานก็อยู่ไม่ไกลจากกันและเธอก็มีจักรยานเป็นพาหนะ คนที่บ้านเป็นห่วงมาก ออกตามหาในเส้นทางที่เธอใช้กลับบ้านเป็นประจำ และไปพบรถจักรยานของเธอในพุ่มไม้ แต่ก็ยังไม่พบตัว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อค้นหาในบริเวณนั้น ในที่สุดก็พบร่างที่ไร้วิญญาณ มีร่องรอยการต่อสู้และถูกข่มขืน ใช้เวลาไม่นานก็จับตัวคนร้ายได้ เป็นชายหนุ่ม 3 คน ที่เดินไปมาอยู่แถวนั้นอย่างย่ามใจ สารภารพว่าเห็นผู้หญิงคนนี้ขี่จักรยานผ่านมา ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่าจะข่มขืนแล้วจึงใช้เท้าถีบจักรยานให้ล้ม แล้วจึงช่วยกันลากตัวไปข่มขืนในพงหญ้า แค่นั้น เขาพูดแค่นั้นจริงๆ ค่ะ ไม่ได้แสดงความรู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี้คงเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง ที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนปี พ.ศ.ใดๆ ก็ยังมีให้เล่าขานได้เสมอ เป็นภัยมืดที่หมายถึงเรื่องร้ายๆ ที่ทำให้เราต้องมีชีวิตหรือความรู้สึกประหนึ่งตกอยู่ในขุมนรก และชอบมาเยือนเวลามืดค่ำในที่เปลี่ยวด้วย
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
Knowledge Center |
|
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|