ป้องกันและรักษา ริ้วรอยในคราเดียว

              ริ้วรอยแห่งอารมณ์มาพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้นตามวัย ยิ่งเป็นคนเครียดง่าย  วิตกกังวลบ่อย และต้องเผชิญกับแสงแดด  ริ้วรอยเหี่ยวย่นและรอยตีนกายิ่งมาเยือนเร็วขึ้น   ทางที่ดีควรเน้นการป้องกันตั้งแต่แรกเริ่มเยาว์วัย
             แพทย์หญิงกานต์ ชนก พานิช กรรมการผู้จัดการกานต์ชนกคลินิก  กล่าวว่า ในปัจจุบันพฤติกรรมของกลุ่มรักสวยรักงาม โดยเฉพาะในผู้หญิงไทยเริ่มหันมาฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยมากขึ้น  หรือแม้กระทั่งในกลุ่มผู้ชาย ก็หันมาดูแลตัวเองเพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพ โดยเฉพาะในภาวะที่มีการแข่งขันกันสูง  ในวัยหนุ่มสาว ที่ต้องแข่งขันในการสมัครงาน ซึ่งต้องมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมีบุคคลิกภาพหน้าตา ที่ดี   ย่อมได้เปรียบกว่า   

นวัตกรรม โบท็อกซ์  เข้ามามีบทบาท  เมื่อ 10-12  ปีที่ผ่านมา ชื่อของสารนี้ คือ    โบทูลินั่ม   ท็อกซิน  (Botulinum toxin )  เป็นสารโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ด้วยกระบวนการส่งคำสั่งปลายประสาทไปยังกล้ามเนื้อ จากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อมัดนั้นให้หายไป  โบท๊อกซ์เข้ามาจากต่างประเทศจริง ๆ HDA  ของอเมริกาตั้งแต่ปี 2532  แต่จริงๆ แล้ว  นำมาใช้ในวงการทางแพทย์ทางด้านอื่น ๆ เช่น ทางด้านหมอจักษุแพทย์ คนไข้ที่ตากระตุก ก็จะฉีดยาตัวนี้เพื่อระงับการกระตุกของกล้ามเนื้อ   ในภายหลัง แพทย์ด้านผิวหนังสังเกตว่า เมื่อฉีดยาตัวนี้เข้าไปสามารถทำให้ริ้วรอยหายไป ก็เลยนำแนวคิดนี้ ในการคำนวณปริมาณของตัวยาที่จะฉีดตรงรอยตื้น ๆ ของผิวหนัง เช่นตีนกา ตัวยานี้ทำให้ริ้วรอยที่มีร่องเรียบขึ้น ในภายหลังจึงได้พัฒนานำหลักการดังกล่าวมาใช้ในด้านความงาม 

             นวัตกรรมโบท็อกซ์  ให้ผลที่ชัดเจน โดยลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ใช้แสดงอารมณ์ช่วยให้หน้ายกกระชับขึ้น ใช้เวลา ทำครั้งละ 5-10 นาที อยู่ได้ 6-7 เดือน  โดยฉีดตำแหน่งที่มาตรฐาน เช่น ตีนกา ฉีดอย่างละ 3-6 จุด  หน้าผากฉีด 7-12 จุด   ถ้าตรงหัวคิ้วฉีดประมาณ 3-5 จุด  และในส่วนต่าง ๆ อาทิ กล้ามเนื้อบริเวณที่ขมวดคิ้ว, กล้ามเนื้อบริเวณกรามฉีดเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวลง และสามารถฉีดให้น่องเรียวเล็ก   นอกจากนี้  ยังสามารถใช้รักษาโรคไมเกรน โดยฉีดที่บริเวณขมับหรือจุดเฟิงซุย ฉีดครั้งหนึ่งช่วยบรรเทาอาการได้ 6-7 เดือน ส่วนคนที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นอับใต้รักแร้ หรือกลิ่นตัวแรงก็รักษาได้ด้วยนวัตกรรมโบท็อกซ์

สมัยก่อนการลดริ้วรอยจะต้องผ่าตัด แต่ก็แค่จางไม่หายหรือเรียบเนียน ไม่เหมือนการฉีดโบ     ท๊อกซ์ตีนกาหายไปเลยและค่อนข้างที่จะปลอดภัย คือฉีดแค่ 3จุด4 จุด ตีนกาหายไปเลยภายในอาทิตย์เดียว ส่วนคนวัย 30-40 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน ควรใช้เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อาจจะเลือก เทคโนโลยีคอลลาเจน เลเซอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในเรื่องการแก้รอยคล้ำใต้ตา, รักษาฝ้า, ลดร่องลึก, ป้องกันริ้วรอยใต้ตา และตาเหี่ยวตาห้อย เพราะวัยนี้เป็นวัยเริ่มเห็นริ้วรอย ส่วนจะมีริ้วรอยตรงไหนขึ้นอยู่ กับความเคยชินในการแสดงออกทางสีหน้า เช่น การขมวดคิ้ว, การเลิกหน้าผาก และตีนกาจากรอยยิ้ม 

โภชนาการที่ดี ก็ผลอย่างมากต่อ ความเต่งตึงหรือเหี่ยวย่นของผิวหนัง  อาหารต่อต้านริ้วรอยได้แก่ ผักใบเขียว  น้ำมันมะกอก กระเทียม ถั่ว ชา ปลาซาร์ดี หน่อไม้ฝรั่ง แอปเปิ้ล ลูกพรุน แตงโม ขนมปังธัญพืช  นมพร่องมันเนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำ  ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกเนื้อย่าง มันฝรั่งทอด  ไอศกรีม ขนมปังรสหวาน และน้ำอัดลม หากคุณกังวลเรื่องผิว น้ำหนัก และสุขภาพของหัวใจ ควรกินอาหาร เช่น ปลา ถั่ว น้ำมันมะกอก ธัญพืช และนมพร่องมันเนย แทนอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง            

อย่างไรก็ดี การเลือกใช้นวัตกรรมด้านความงามโดยคำนึงถึงความเหมาะสมของวัยเป็นหลัก การดูแลรักษาใบหน้าควรปฏิบัติก่อนริ้วรอยมาเยือน เลือกใช้เวชสำอางให้เหมาะสมกับสภาพผิวและควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ   แพทย์หญิงกานต์ชนก กล่าวทิ้งท้าย