นิคม สหกรณ์หลังสวน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร นิคมการเกษตรพืชอาหารและพลังงานทดแทนในเขตนิคมสหกรณ์ แม่แบบบริหารจัดการรูปแบบขบวนการสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีเป้าหมายในการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศให้มีความยั่งยืน มั่นคง ทิศทางการพัฒนาในพื้นที่นิคมการเกษตร มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเอง ส่งเสริมวิธีคิด องค์ความรู้และการบริหารจัดการ การรวมกลุ่มในการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การผลิตเพื่อจำหน่าย จะเน้นรูปแบบการตลาด นำการผลิตปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน สร้างมูลค่าเพิ่มด้านการแปรรูป เชื่อมโยงสู่ระบบอุตสาหกรรมการเกษตรและพลังงานจากพืชทดแทนเพื่อลดการนำเข้า พลังงานเชื้อเพลิง
นายณรงค์ วชิรปาณี ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์หลังสวน เปิดเผยว่า การดำเนินงานของนิคมสหกรณ์โครงการแรกเป็นโครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง โครงการที่สองเป็นโครงการของกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะโครงการของนิคมการเกษตรที่มีการดำเนินงานให้ตรงกับหลักของสมาชิก สหกรณ์ ที่ผ่านมามีการพัฒนาทั้งสองด้าน จากการที่เกษตรกรไม่มีความรู้เรื่องปาล์มน้ำมัน แต่หลังจากผ่านการอบรมเพิ่มพูนความรู้แล้วก็สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ ได้จริง และยังทำให้ความเป็นอยู่ของคนในชุมชนดีขึ้นเป็นลำดับ นับได้ว่านิคมสหกรณ์สามารถบริหารจัดการเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะใน 3 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมปาล์มเพื่อการปฏิรูป การจัดหาวัสดุที่สามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกร และในเรื่องของธุรกิจสินเชื่อ เป็นการช่วยเหลือสมาชิก เป็นการบูรณาการระหว่างนิคมสมาชิกและกรรมการให้สามารถทำงานร่วมกันได้
นางอุบล คงเหล่ ประธานกลุ่มชุมชนตัวอย่างของเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่โครงการนิคมสหกรณ์หลังสวน เกษตรกร หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร กล่าวว่า การน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้กับภาคการเกษตรนั้น นับว่ามีความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด มาใช้ในการบำรุงต้น และใช้ทะลายปาล์มมาคลุมโคนเพิ่มความชุ่มชื้น การเพาะปลูกพืชผักสวนครัว การทำขนม และกิจกรรมอื่น ๆ ตามโครงการพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตเกษตรกรสมาชิกตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะในสวนปาล์มซึ่งเมื่อก่อนปาล์มไม่มีลูกเลย แต่การเข้าร่วมโครงการโดยการใส่ทะลายปาล์ม ใส่ปุ๋ยขี้ไก่ ขี้วัว และใส่น้ำชีวภาพ จะทำให้ประหยัดต้นทุนได้ค่อนข้างมาก
สำหรับการตัดทะลายปาล์มเพื่อคลุมดินไว้จะทำให้สภาพดินมีความชุ่มชื้น ทะลายปาล์มยังช่วยล้อมปุ๋ยไม่ให้ออกนอกโคนปาล์มเวลาฝนตกดินก็จะไม่ชะล้างออก ไป ปุ๋ยเคมีเราจะใส่น้อยลง อย่างเช่นปริมาณการใส่ปุ๋ยเคมีเมื่อก่อนจะใส่ 6 กก. แต่ปัจจุบันลดลงเหลือแค่ 1 กก. เท่านั้น เป็นการลดปริมาณค่าใช้จ่ายปุ๋ยลงได้ แปลงทดลองของระบบเศรษฐกิจพอเพียงก็ได้คัดเลือกเอาแปลงที่มีปัญหา เพื่อดูว่าหลังจากที่เราได้มีการเปลี่ยนแปลงการดูแลแล้วจะเป็นอย่างไร
ด้านนายสมบูรณ์ พูลสวัสดิ์ เกษตรกรแกนนำ ผู้เข้าร่วมโครงการนิคมการเกษตรพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทน กล่าวถึงการได้รับการสนับสนุนจากนิคมสหกรณ์ว่า การดำเนินชีวิตโดยใช้ปุ๋ยคุณภาพ อาทิ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยหมัก เพื่อลดการใช้สารเคมี รวมถึงบริหารจัดการระบบน้ำเข้าสู่แปลงปลูกโดยการขุดสระน้ำ เพื่อใช้ในสวนปาล์ม ได้ปลูกปาล์มมากว่า 30 ปี แต่เพิ่งจะเห็นผลผลิตที่ชัดเจนเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้ตัดสินใจเข้าสู่โครงการเศรษฐกิจพอเพียง แม้การใช้ปุ๋ยเคมีจะได้ผลจริง แต่ก็ได้ผลเพียงระยะสั้น แต่การปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ ทำให้พืชผลดีขึ้นในระยะยาว.