ความรัก อาจขึ้นอยู่กับคุณสองคนในการประคองให้คงอยู่ตลอดไป หากแต่การครองเรือน มีความซับซ้อนยิ่งกว่า เพราะการครองเรือนไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณสองคนเพียงเท่านั้น พ่อแม่ญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายต่างก็มีส่วนสำคัญอย่างมากเช่นกัน ดังนั้น การครองเรือนจึงอยู่ที่ว่า คุณมีศิลปะในการบริหารสายสัมพันธ์ที่โยงใยระหว่างครอบครัวของคุณกับครอบครัวเดิมของทั้งสองฝ่ายอย่างไร
คำแนะนำต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับดีๆ ในการสานสายสัมพันธ์กับพ่อแม่ของเขาค่ะ (หรือจะของเธอก็ได้ ใช้ได้เหมือนกันค่ะ กลับกันก็แต่คู่กรณีเท่านั้น)
1. ดูแลเขาคนนั้นของคุณให้ดี
เพราะไม่มีอะไรที่สร้างความพอใจให้กับพ่อแม่ได้มากเท่ากับการได้รู้ว่าลูกชายของเขาได้รับความรัก และการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากลูกสะใภ้
2. ต่อหน้าพ่อแม่ต้องทำตัวให้ดูประหนึ่งว่า คุณทั้งคู่ปรองดองกันดีในทุกเรื่อง
สิ่งที่พึงหลีกเลี่ยงที่สุดคือ การทำกระฟัดกระเฟียดหรือทำเก่งต่อล้อต่อเถียงสามีต่อหน้าพ่อแม่ของเขา ก็มันแน่นอนล่ะ การกระทำอย่างนี้จะสร้างความไม่สบายใจให้กับพ่อแม่ของเขาได้ และในที่สุดก็จะกลายเป็นความรู้สึกเหม็นหน้าไปโดยปริยาย ซึ่งถ้าพ่อแม่ของเขาเกิดอารมณ์นี้ขึ้นมาล่ะก้อ บอกได้เลยว่า สัญญาณอันตรายบังเกิดแล้วล่ะค่ะ อย่ากระนั้นเลย ถ้าคุณคิดว่าเรื่องที่จะคุยกับเขา เป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่จะต้องรีบคุยให้รู้เรื่อง ก็ให้แอบๆ ปรึกษากันดูก่อนว่าเมื่อไรจึงจะเป็นเวลาคุยที่เหมาะสม
3. ชิงเป็นฝ่ายเข้าหาท่านก่อน
จะได้มีเวลารับมือกับการต้อนรับท่าน หมั่นส่งเสียงเจื้อยแจ้วไปทักทายพ่อแม่สามีบ้าง หรือบางทีก็ให้หาซื้อของฝากติดไม้ติดมือไปให้ท่านบ้าง คือ พยายามติดต่อทักทายถามสารทุกข์สุขดิบกับท่านอยู่เสมอ อย่ารอนาน จนต้องให้ท่านเป็นฝ่ายติดต่อกลับมาหาคุณแทน จะดูไม่ดีไปนะ ที่สำคัญเวลาที่โทร.ไปทักทายท่าน ก็ให้เอ่ยปากชวนท่านแวะเวียนมาเที่ยวที่บ้านของคุณสองคนบ้าง อย่าให้ท่านต้องเป็นฝ่ายอัญเชิญตัวเองมาซะล่ะ อย่างน้อยถ้าคุณเป็นคน เอ่ยปากก่อน ก็จะได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจต้อนรับพ่อแม่ของสามีได้อย่างไม่ขัดไม่เขินไงคะ
4. ให้คุณปู่คุณย่าได้มีส่วนออกความเห็นเกี่ยวกับการเลี้ยงดูหลานๆ บ้าง
โดยคุณอาจจะขอความเห็นเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกกับพ่อแม่ของเขาบ้าง โดยไม่ต้องกังวลว่า ความเห็นของเขาจะขัดกับความรู้สึกของคุณแล้วจะปฏิเสธไม่ได้ ถึงจะมีหลายๆ เรื่องที่คุณไม่เห็นด้วย ก็ต้องมีบ้างสักเรื่องล่ะนี่ที่เห็นตรงกันทั้งคุณ และพ่อแม่ของเขา สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ จริงๆ แล้วสิ่งที่พ่อแม่ของเขาต้องการก็คือ การได้มีส่วนร่วมในการดูแลหลานของพวกเขามากกว่า สรุปก็คือ เอาปัญหาหลานๆ ไปขอคำแนะนำจากปู่ย่า แต่ไม่ทำตาม ยังดีเสียกว่าที่ปู่ย่าให้คำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาของหลานๆ แล้วคุณไม่ทำตามนะคะ
5. ปฏิเสธอย่างมีศิลปะ
ถ้าแม่ของเขาชอบเข้ามาจุ้นจ้านกับคุณในขณะที่คุณกำลังวุ่นอยู่ในครัว เช่น พยายามเข้ามาช่วยคุณล้างจานหลังอาหารมื้อค่ำ แทนการปฏิเสธ ทำไมไม่ลองเสนอให้ท่านเอากาแฟไปเสิร์ฟ หรือไปเล่นกับหลาสนๆ ซะล่ะ นอกจากจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อความรู้สึกไม่พอใจต่อกันแล้ว บางทีความน่ารักของเด็กๆ อาจช่วยหล่อหลอมความรู้สึกของท่าน ทำให้ท่านเอ็นดูครอบครัวของคุณยิ่งขึ้นก็ได้
6. ถ้าคุณกับพ่อแม่ของเขาแทบจะลงรอยกันไม่ได้เลย
อยู่นิ่งๆ เฉยๆ ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าหากจะต้องมีการปฏิสัมพันธ์กันก็ให้เป็นไปอย่างนอบน้อมที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ หลีกเลี่ยงการเป็นฝ่ายเริ่มต้น แต่ให้ตั้งรับจะดีกว่า และที่สำคัญจำให้แม่นว่าถึงแม้คนที่คุณรัก และกำลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยจะเป็นเขาของคุณ แต่เขาของคุณเป็นลูกชายที่พ่อแม่เขาเฝ้าทะนุถนอมมา แต่เล็กแต่น้อยด้วยความรัก เฉกเช่นเดียวกับที่คุณกำลังทะนุถนอมลูกตัวน้อยๆ ของคุณ ซึ่งสักวันเขาจะเติบโตขึ้นเพื่อที่จะไปรักและถูกรักโดยใครสักคน ที่คุณเองก็ไม่รู้ว่าจะถูกชะตาด้วยหรือไม่.. เช่นกัน...
เอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าใจเราจะเป็นอย่างไรกับการกระทำที่เรากำลังคิดจะทำนะคะ !!
ถ้าคุณคิดไม่ตกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ควรจะไปเยี่ยมครอบครัวใครดี ระหว่างครอบครัวของคุณเอง หรือครอบครัวของเขา ลองพิจารณาทางเลือกต่อไปนี้ดูสิคะ ริเริ่มทำให้เกิดประเพณีปฏิบัติสำหรับครอบครัวว่า ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ที่บ้านของคุณจะมีกิจกรรมสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว ซึ่งจะรวมถึงครอบครัวเดิมของคุณ และเขาจะมารวมกันที่บ้านของคุณ ร่วมรับประทานอาหาร พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบร่วมกัน หรือถ้าคิดแล้วว่าคงเป็นไปไม่ได้ ก็ให้นัดกันไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดร่วมกันทั้งสองครอบครัวเป็นครั้งคราว เท่าที่โอกาสจะอำนวย เพียงเท่านี้ ก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัวว่าครอบครัวของคุณจะไปกับครอบครัวเดิมของใครแล้วล่ะค่ะ
ข้อพึงระวัง !
หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของเขาให้มากที่สุด ไม่ว่าคุณจะอัดอั้นใจแค่ไหนก็ตามแทนการเผชิญหน้า หันกลับมาใช้สมองของคุณคิดพิจารณาหาเหตุผลของการกระทำที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจ ใช้หัวใจของคุณ แผ่ความเมตตา เพื่อให้ชีวิตของคุณเป็นสุข และเพื่อครอบครัวที่เป็นสุขของคุณ พยายามเข้ากันให้ได้กับพ่อแม่ของเขา แต่อย่าปล่อยให้พ่อแม่ของเขามามีอิทธิพลเหนือไลฟ์สไตล์ชีวิตคู่ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเจ้าตัวน้อย แล้วใช้เหตุผลเป็นพื้นฐานนำพาทุกชีวิตทั้งในครอบครัวของคุณ และที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของคุณ ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนะคะ
(update 9 กันยายน 2005)
[ ที่มา.. นิตยสารบันทึกคุณแม่ ปีที่ 10 มีนาคม 2547 ]