"ค่ำคืนนี้ช่างเงียบเหงา" ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถตู้ที่กำลังมุ่งหน้าพาฉันและเพื่อนไปสู่จุดหมาย เื้บื้องหน้าคือถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาแต่ทว่าฉันมองเห็นเพียงไม่กี่เมตร ไกลเท่าที่แสงไฟหน้ารถส่องถึง สองข้างทางเป็นป่าที่ไร้ชื่อ และบนท้องฟ้ามองดูราวผ้ากำมะยี่สีดำผืนใหญ่ที่ประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กนับล้าน ฉันและเพื่อนๆ มุ่งหน้าสู่ผืนป่าใหญ่ในจังหวัดชุมพร ที่นั่นมีชื่อเรียกสั่นๆว่า"พะโต๊ะ"และเรากำลังจะไปพักแรมกันที่หน่วยจัดการต้นน้ำพะโต๊ะ
ฉันเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเปิดประตูรถ และเสียงทักทายจากเจ้าหน้าที่ของที่นั่น ฉันงัวเงียลงจากรถโดยที่เพื่อนๆเดินตามเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าไปก่อน เมื่อลงมาจากรถสัมผัสแรกของลมป่าทำให้ฉันต้องยกแขนขึ้นกอดอก และก็ไม่พ้นสายตาอันว่องไวของเพื่อนชายคนสนิท เขาเดินย้อนไปที่รถเพื่อหยิบเสื้อกันหนาวมาให้ ฉันจึงหยุดรอเขาด้วยน้ำใจที่มีต่อกัน ซึ่งนั่นมันก็ทำให้เราไม่ทันได้มองว่ากลุ่มเพื่อนๆและเจ้าหน้าที่เดินไปทางไหน
ฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เจอนี้เรียกว่าหลงป่าหรือเปล่า รู้แต่ว่ายิ่งเดินก็ยิ่งลึก ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ฉันเริ่มกลัวและคว้ามือของเพื่อนชายมากุมไว้ เสียงดังแสกสากๆ เหมือนมีอะไรกำลังเคลื่อนไหวอยู่รอบตัวระงมไปหมด ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความมืด โดยเฉพาะทางข้างหน้าที่เราคิดกันว่ามีที่พักรออยู่นั้นมืดมาก เราตัดสินใจที่จะหยุดรอเผื่อจะมีใครเดินมาตาม
ฉันแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้านั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ความกลัวของฉันคงที่ เพราะรู้สึกเหมือนเข้าใกล้กับท้องฟ้ามากที่สุดและเหมือนตัวเองยืนอยู่ ณ สุดขอบจักรวาล เป็นความสวยงามที่เรามองเห็นได้อย่างไร้ขอบเขต อิสระ และรู้สึกเหมือนถูกปลดปล่อยจากพันธนาการ
ในที่สุดฉันก็ชวนเพื่อนชายของฉันลองย้อนกลับลงไปตามทางที่เราเดินมา หลังจากที่ยืนอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ จนออกมาพบเพื่อนคนหนึ่งกำลังรอเราอยู่บริเวณรถตู้และเราก็ได้รู้ว่าเราเดินเข้าไปผิดทาง ถึงจะโกรธที่ดูทุกคนไม่ค่อยจะห่วงใยเราเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยฉันก็ไดรู้ว่าคนที่อยู่ใกล้ใจฉันเขาจะไม่ทิ้งฉันในเวลาคันขันแน่นอน แล้วอีกอย่างหนึ่งฉันไม่รู้หรอกว่าแบบนี้เขาเรียกว่าหลงป่าหรือเปล่า ฉันรู้แต่ว่า "ฉันหลงร้กป่าเข้าเต็มเปาเ
* ขอความกรุณาเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านช่วยโหวตให้ด้วยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนและปรับปรุงเรื่องราวให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณค่ะ
|